Page 33 - 50 ปี พุทธศิลป์ ธ.ก.ส.
P. 33

“ทศวรรษที่ส่ี” ๒๕๔๑-๒๕๕๐
ถือเป็นช่วงที่มีการขยายงานขยายสาขาไป ครอบคลุมทุกอําเภอและเริ่มเปิดตัวสู่สาธารณะ มากกว่าในอดีต นับเป็นยุคที่มีความสําคัญเพราะ เป็นการเริ่มต้นปรับบทบาทของธนาคารไปสู่การเป็น ธนาคารพัฒนาชนบท และน้อมนําปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม ของพระบาท สมเด็พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย์เดช รัชกาลท่ี ๙ มาเป็นแก่นหลักบริหารพัฒนาองค์กร
การทํางานเริ่มเปลี่ยนจากการดูแลลูกค้าเป็น รายคนสู่ชุมชน จึงเป็นช่วงเวลาที่เข้าไปใกล้ชิดในวิถี ชีวิตของชาวบ้านในเชิงชุมชนมากยิ่งขึ้นการสนับสนุน กิจกรรมทางด้านศาสนาเริ่มที่จะมีการเข้าไปเป็นเจ้า ภาพองค์กฐิน ทั้งในระดับองค์กรและบุคคลมากขึ้น โดยยังคงตั้งหลักที่จะไม่ไปเบียดเบียนชาวบ้านแต่นําพา บุญกุศลร่วมกันไปสู่หมู่บ้าน
ห้วงเวลานี้เป็นรอยต่อที่สําคัญขององค์กร มากมายจากในอดีต ความไม่แน่นอนเชิงนโยบายและ การเมืองเริ่มเข้ามามีบทบาทมากย่ิงขึ้นกว่าอดีต การ บริหารจัดการเชิงพุทธจึงเริ่มซึมซับเข้ามาเติมเต็ม จิตใจเพื่อให้สามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคตลอด จนเหตุการณ์สําคัญต่างๆ
ความเชื่อเรื่องการสร้างบุญกุศลเพื่อให้เกิด พลังคุ้มครองปกป้องเริ่มมีความสําคัญ ตลอดจน การเริ่มต้นในการจัดพิธีอุปสมบทหมู่พนักงาน เพื่อ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลท่ี ๙ ในปี ๒๕๔๖ ณ วัด เบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เป็นพระ นวกะรุ่นแรก ๗๗ คน และสืบสานต่อกันมาจนถึงรุ่น ที่ ๔ ในเวลาต่อมา
กิจกรรมทําบุญสําคัญที่ปฏิบัติเป็นประจําของ ธนาคารคือการเป็นเจ้าภาพในพิธีทอดกฐินทุกภาค อย่างสม่ําเสมอ และมักมักมีการจัดหาพระต่างๆมา
เป็นที่ระลึกในแต่ละปี บางครั้งก็เช่ามาแจกผู้ร่วมพิธี บางคราวก็มีการตอกคําว่า ธ.ก.ส. บ้าง แต่ในช่วง เวลาทศวรรษนี้มีการจัดสร้างและมีความเกี่ยวโยงกับ พุทธศิลป์หลักที่สําคัญกับธ.ก.สในยุคนี้อย่างมากมาย หลายเรื่องก็คือ
การเร่ิมต้นท่ีจะจัดสร้างพระในวาระครบ ๔๐ ปี ที่เป็นการคิดและมีกระบวนการหล่อพระพุทธรูปและ พิมพ์พระโดยธนาคารอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซ่ึง การจัดสร้างครั้งนั้นตั้งใจว่าจะให้เป็นพระพุทธรูปเพื่อ ให้เป็นพระประจําธนาคารให้ไว้กับทุกสาขาของประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวคุ้มครอง พนักงานและลูกค้าของธนาคาร
เนื่องมาจากสมัยก่อน ธนาคารจัดแบ่ง โครงสร้างไว้เพียงระดับจังหวัด จึงมีสาขาในระดับ จังหวัดไม่กี่แห่งเท่านั้นจึงจัดให้เช่าบูชาพระพุทธชิน ราชหรือพระพุทธรูปสําคัญๆไว้เป็นพระประจําสาขา แต่ต่อมาเมื่อมีการขยายสาขาไปในระดับอําเภอจํานวน สาขาจึงเพิ่มขึ้นมากมายและยังไม่พระพุทธรูป ม่ือเปิด สาขาเสมือนการขึ้นบ้านใหม่จึงยังไม่มีพระพุทธรูปนํา เข้าบ้าน ดังนั้นสมัยนั้นจึงคิดจัดสร้างพระพุทธรูป พระนิรันตรายขึ้นมา โดยมีที่ปรึกษาจากบุคคล ภายนอกที่อยู่ในวงการพระเครื่องได้แนะนําว่าท่านมี นิมิตรเห็นว่าพระปางน้ี ทรงน้ีน่าจะเหมาะกับธนาคาร
ผู้เขียนจําได้ว่าท่านได้หยิบหนังสือที่มีการบันทึก เรื่องราวของพระปางน้ีไว้ มาให้พวกเราได้ดูกัน คือ หนังสือชื่อ “..ภาพพระพุทธรูป” ของผู้เขียน ประชุม กาญจนวัฒน์ เป็นพระปางสมาธิ ท่านั่งขัดสมาธิ เพชร ถือเป็นศิลปแบบทวารวดียุคต้น ซึ่งอยู่ในหน้าท่ี ๑๑๑ ตามตํารากล่าวไว้ว่า ต้นแบบเป็นพระพุทธรูป ทองคํา ซึ่งมีการค้นพบที่จังหวัดปราจีนบุรี มีขนาด ๘.๕ ซ.ม. ซ่ึงตามประวัติกล่าวไว้ว่าในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้ทรงนําไปเป็นแบบอย่างเพื่อสร้างเป็นพระนิรันตราย ประจํารัชกาล
การสร้างพระพุทธรูปนิรันตราย ของธนาคาร ในครั้งนั้น ประกอบไปด้วยพระพุทธรูป เพ่ือบูชาขนาด
33


































































































   31   32   33   34   35