Page 37 - หนังสือประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ 2568 ครั้งที่ 25
P. 37
ปัจจััยทำนายพฤติิกรรมป้องก้นการเสพแอมเฟตาม่นซำ
ของผูู้้เข้าร้บการบำบ้ดยาเสพติิดในโรงพยาบาลชุุมชน
พศิษฏิ์ เสริมสาย พย.ม.
1
, ลิหล่า ศรีพวงเพิด พย.บ.
1
, ณ์ัฐพณ บุ้ติติะโยธี พ.บ.
1
และนริสา วงศ์พนารักษ์ ปร.ด.2
1 โรงพยาบาลโกสุมืพิสัย
2 มหาวัิทยาลัยมหาสารคาม
บที่ค้ดย่อ
ความสำค้ญ
ยาเสพติิดส่งผลเสียหายติ่อทุกประเทศเป็นวงกวั้างไปทัวโลก มืีแนวโน้มืทีจะทวัีคัวัามืรุนแรงเพิมืมืากข่น
ซึ่่งเป็นผลมาจากการเพิมืข่นของนักเสพหน้าใหมื่และการกลับไปเสพซึ่ำของผ่้ผ่านการบำบ้ัดไปแล้ว
วิ้ติถุประสงค์ 1. เพือศ่กษาพฤติิกรรมืป้องกันการเสพแอมเฟื้ติามืีนซึ่ำ การรับ้ร่้สมรรถนะแห่งตน การสนับสนุนทางสังคัมืจาก
ครอบ้คัรัวและแรงจ่งใจในการเลิกใช้สารเสพติิด
2. เพือศ่กษาคัวัามสามารถในการร่วัมืกันทำนายของการรับ้ร่้สมรรถนะแห่งตน การสนับสนุนทางสังคัมื
จากครอบ้คัรัวและแรงจ่งใจในการเลิกใช้สารเสพติิด กับพฤติิกรรมืป้องกันการเสพแอมเฟื้ติามืีนซึ่ำของผ่้เข้ารับ
การบำบ้ัดยาเสพติิดในโรงพยาบาลชุมชน
วิิธ่การศึกษา
การศ่กษาคัวัามืสัมืพันธ์เชิงทำนาย จากกลุ่มืติัวอย่างจำนวน 142 ราย โดยการสุ่มือย่างง่าย เคัรืองมืือทีใช้ ในการวัิจัย คัือ 1) แบ้บ้สอบ้ถีามการรับ้ร่้สมรรถนะแห่งตน 2) การสนับสนุนทางสังคัมืจากครอบ้คัรัว 3) แรงจ่งใจใน
การเลิกใช้สารเสพติิด และ 4) พฤติิกรรมืป้องกันการเสพแอมเฟื้ติามืีนซึ่ำ ซึ่่งหาคั่าคัวัามเชือมืันของเคัรืองมืือได้ เท่ากับ .87, .91, .80 และ .76 ตามลำดับ วัิเคราะห์ข้อมื่ลด้วยสถีิติิเชิงพรรณนา คั่าสัมประสิทธิสหสัมืพันธ์ของเพียร์สัน
และวัิเคราะห์การถดถอยพหุคั่ณ์
ผลการศึกษา
". พฤติกรรมป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.าอยู่ในระดับปานกลาง ( 1. พฤติิกรรมืป้องกันการเสพแอมเฟื้ติามืีนซึ่ำอย่ในระดับปานกลาง (
X = 3.25, SD = J.?L) การ
= 3.25, SD = 0.59) การรับ้ร่้สมรรถนะ
มเฟตามีนซํ.าอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 3.25, SD = J.?L) การ
แห่งตนระดับปานกลาง (
". พฤติกรรมป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.าอยู่ในระดับปานกลาง ( = 2.97, SD = 0.86) การสนับสนุนทางสังคัมืจากครอบ้คัรัวระดับ้ส่ง (
รับรู้สมรรถนะแห่งตนระดับปานกลาง (X = 2.97, SD = J.A!) การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวระดับสูง
X = 3.25, SD = J.?L) การ
= 3.70, SD = 0.67)
พฤติกรรมป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.าอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 3.25, SD = J.?L) การ
และแรงจ่งใจในการเลิกใช้สารเสพติิดระดับปานกลาง (
X = 2.97, SD = J.A!) การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวระดับสูง
= 3.22, SD = 0.61)
(X = 3.70, SD = J.!M) และแรงจูงใจในการเลิกใช้สารเสพติดระดับปานกลาง (X = 3.22, SD = 0.61)
รับรู้สมรรถนะแห่งตนระดับปานกลาง (X = 2.97, SD = J.A!) การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวระดับสูง
ถนะแห่งตนระดับปานกลาง (X = 2.97, SD = J.A!) การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวระดับสูง
ารเลิกใช้สารเสพติดระดับปานกลาง (X = 3.22, SD = 0.61)
2. การรับ้ร่้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคัมืจากครอบ้คัรัวัมืีคัวัามืสัมืพันธ์ทางบ้วักกับพฤติิกรรม
(X = 3.70, SD = J.!M) และแรงจูงใจในการเลิกใช้สารเสพติดระดับปานกลาง (X = 3.22, SD = 0.61)
>. การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางบวก
ป้องกันการเสพแอมเฟื้ติามืีนซึ่ำ อย่างมืีนัยสำคััญทางสถีิติิ (r = .448, .393, p < .01 ตามลำดับ)
SD = J.!M) และแรงจูงใจในการเลิกใช้สารเสพติดระดับปานกลาง (X = 3.22, SD = 0.61)
ละการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางบวก
กับพฤติกรรมป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.า อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (r = .448, .393, p< .J" ตามลําดับ)
>. การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางบวก
3. การรับ้ร่้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคัมืจากครอบ้คัรัว สามารถีร่วัมืกันทำนายพฤติิกรรม
การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางบวก
มีนซํ.า อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (r = .448, .393, p< .J" ตามลําดับ)
กับพฤติกรรมป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.า อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (r = .448, .393, p< .J" ตามลําดับ)
3. การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว สามารถร่วมกันทํานาย
ป้องกันการเสพแอมเฟื้ติามืีนซึ่ำได้ ร้อยละ 29.1 (R2 = .291, adjusted R2 = .281, F = 17.82, p < .01)รมป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.า อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (r = .448, .393, p< .J" ตามลําดับ)
ะการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว สามารถร่วมกันทํานาย
พฤติกรรมป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.าได้ ร้อยละ 29.1 (R2 = .291, adjusted R2 = .281, F = 17.82, p< .01)
3. การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว สามารถร่วมกันทํานาย
การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว สามารถร่วมกันทํานาย
าได้ ร้อยละ 29.1 (R2 = .291, adjusted R2 = .281, F = 17.82, p< .01)
พฤติกรรมป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.าได้ ร้อยละ 29.1 (R2 = .291, adjusted R2 = .281, F = 17.82, p< .01)
ป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.าได้ ร้อยละ 29.1 (R2 = .291, adjusted R2 = .281, F = 17.82, p< .01)
สรุปและวิจารณ์ การรับรู้สมรรถนะแห่งตนและการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว เป็นปัจจัยสําคัญที@ส่งผลต่อ
การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว เป็นปัจจัยสําคัญที@ส่งผลต่อ
สรุปและวิจารณ์ การรับรู้สมรรถนะแห่งตนและการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว เป็นปัจจัยสําคัญที@ส่งผลต่อ
จารณ์ ารรับรู้สมรรถนะแห่งตนและการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว เป็นปัจจัยสําคัญที@ส่งผลต่อ
พฤติกรรมการป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.า ผู้เข้ารับการบําบัดยาเสพติดที@มีการรับรู้สมรรถนะแห่งตนที@ สูง และได้รับการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวที@เหมาะสม จะเป็นแรงผลักดันช่วยให้ผู้เข้ารับการ
มีนซํ.า ผู้เข้ารับการบําบัดยาเสพติดที@มีการรับรู้สมรรถนะแห่งตนที@ ากครอบครัวที@เหมาะสม จะเป็นแรงผลักดันช่วยให้ผู้เข้ารับการ
25
พฤติกรรมการป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.า ผู้เข้ารับการบําบัดยาเสพติดที@มีการรับรู้สมรรถนะแห่งตนที@ สูง และได้รับการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวที@เหมาะสม จะเป็นแรงผลักดันช่วยให้ผู้เข้ารับการ
การป้องกันการเสพแอมเฟตามีนซํ.า ผู้เข้ารับการบําบัดยาเสพติดที@มีการรับรู้สมรรถนะแห่งตนที@ ้รับการสนับสนนทางสังคมจากครอบครัวที@เหมาะสม จะเป็นแรงผลักดันช่วยให้ผ้เข้ารับการ
บําบัดยาเสพติดป้องกันตนเองจากการกลับไปเสพยาซํ.า ส่งผลให้ประสบความสําเร็จในการเลิกเสพยา ไม่ ั ไป ํ. ื@ ั ่ใ ี ี ิ ี@ ี ึ. ไ ้
ลับไปเสพยาซํ.า ส่งผลให้ปร สบความสําเร็จในการเลิกเสพยา ไม่
บําบัดยาเสพติดป้องกันตนเองจากการกลับไปเสพยาซํ.า ส่งผลให้ปร สบความสําเร็จในการเลิกเสพยา ไม่
