Page 28 - รายงานการประชุมวิชาการเครือข่ายพยาบาล 2568
P. 28

บทนำ
สุรา หรือเครืองดืมแอลกอฮอล์เป็นสารเสพติดทีีให้โทษ การดืมสุราก่อให้เกิดผลเสียทีังต่อร่างกาย
ครอบครัว และสังคม นอกจากนียังเป็นปัจจัยสำคัญทีีก่อให้เกิดความสูญเสียในชุีวิิต ทีรัพย์สิน และสร้างปัญหา
อย่างมากมาย เพราะผูู้้ดืมสุราจะขาดความยังคิด จากการสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพ พ.ศ. 2564 ของ
ศัูนย์วิิจัยปัญหาสุรา (2565) พบวิ่าประชากรไทยทีีมีอายุ 15 ปีข่่นไปจำนวน 57 ล้านคนทีัวประเทีศั มีผูู้้ทีีดืมสุรา
หรือเครืองดืมทีีมีแอลกอฮอล์ในรอบ 12 เดือน ร้อยละ 28 นอกจากนีพบวิ่า ผูู้้ชุายมีการดืมสุรามากกวิ่า
ผูู้้หญิงถ่ง 4 เที่า และชุ่วงอายุทีีมีการดืมสุรามากทีีสุดคือวิัยทำงานตอนต้น อายุระหวิ่าง 25 – 44 ปี ถ่งร้อยละ
36.53 เป็นกลุ่มวิัยรุ่น 15 – 19 ปี ร้อยละ 8.97 และเมือแยกเป็นรายภาคพบวิ่า ภาคเหนือมีนักดืมทีีเป็นวิัย
ผูู้้ใหญ่สูงสุด คือร้อยละ 33.1 รองลงมาคือ ภาคตะวิันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 32.3 เมือแยกรายจังหวิัดพบวิ่า
5 จังหวิัดทีีมีการดืมสุรามากทีีสุดอยู่ในภาคเหนือ ได้แก่ จังหวิัดน่าน รองลงมาคือ จังหวิัดเชุียงราย จังหวิัดแพร่
จังหวิัดมุกดาหาร และจังหวิัดพะเยา สำหรับจังหวิัดลำพูนพบวิ่าอยู่ในอันดับทีี 11 นอกจากนียังพบวิ่าจำนวน
ผูู้้ป่วยรายใหม่ทีีได้รับการวิินิจฉัยวิ่ามีความผู้ิดปกติทางจิตและพฤติกรรมทีีเกิดจากการเสพสุราในปี 2566
จังหวิัดลำพูนมีจำนวน 471 ราย พบมากทีีสุดทีี อำเภอลี สำหรับอำเภอป่าซางมีจำนวน 69 ราย (ศัูนย์เทคโนโลยี สารสนเทีศัและการสือสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข่้อมูล ณ 17 ธัันวาคม 2566)
จากข่้อมูลสถานการณ์ดังกล่าว หน่วยงานสาธารณสุขได้มีมาตรการในการดูแลรักษาผูู้้ป่วยทีีติดสุรา
และมีปัญหาด้านสุขภาพจิตและพฤติกรรมจากการใชุ้สุรา รวมถ่งมาตรการในการป้องกันการใชุ้สุรา ในนักดืม
หน้าใหม่ และผูู้้ทีีใชุ้สุราเสียง เชุ่น การคัดกรองและบำบัดรักษาฟื้้นฟืู้ผูู้้มีปัญหาการดืมสุรา ซึ่่งประกอบด้วย
การคัดกรองปัญหาการดืมสุราและการให้คำแนะนำปร่กษาเบืองต้น (การบำบัดแบบสัน), การดูแลบำบัด
รักษาฟื้้นฟืู้สภาพผูู้้มีปัญหาการดืมสุรา การดูแลเชุิงรุกในชุุมชนสำหรับผูู้้ติดสุรา โปรแกรมใกล้บ้านสมานใจ
และการดูแลชุ่วยเหลือผูู้้มีปัญหาการดืมสุราโดยอาสาสมัครสาธารณสุข (คณะอนุกรรมการพิจารณาด้านการ
บำบัดรักษาฟื้้นฟืู้สภาพผูู้้ติดเครืองดืมแอลกอฮอล์, 2561) รวมถ่งมีการใชุ้สมาธัิและสติ ในการบำบัดผูู้้ใชุ้
สารเสพติดหรือผูู้้ทีีมีพฤติกรรมการเสพติด ซึ่่งมีหลักฐานเชุิงประจักษ์วิ่าได้ผลในการชุ่วยป้องกันการกลับมาเสพ
ซึ่ำ โดยการทำสติบำบัด คือการทำจิตบำบัดและการให้คำปร่กษาโดยใชุ้สติเป็นฐาน เป็นการประยุกต์สมาธัิและ
สติ เพือลดความทีุกข่์หรือเพิมความสามารถในการปรับตัวิข่องผูู้้ทีีมีความเครียดและเจ็บป่วยทีังทางกายและ
ทางใจ โดยสามารถทำได้ทีังรูปแบบของการทำกลุ่มจิตบำบัด การทำจิตบำบัดรายบุคคล และการให้สุขภาพจิต
ศั่กษา โดยการทำจิตบำบัดแบบกลุ่มเหมาะสำหรับผูู้้ป่วยเครียด วิิตกกังวล ซึ่่มเศัร้า และมีพฤติกรรมการเสพติด
ทีีอยู่ภายใต้การบำบัดของแพทีย์ และสามารถร่วมการบำบัดแบบกลุ่มได้ (กรมสุขภาพจิต, 2563)
การใชุ้หลักการชุ่วยเหลือผูู้้ติดสุราด้วยการเจริญสติเป็นฐาน ทำให้ผูู้้ติดสุราสามารถลดการใชุ้สุรา ลดความอยาก
ปรับพฤติกรรมนิสัยอัตโนมัติ ชุ่วยให้ผูู้้ติดสุราลด ละ เลิกสุรา และยังใชุ้เป็นแนวิทีางในการบำบัดและประยุกต์ใชุ้ ในการกระบวนการพยาบาลชุ่วยเหลือฟื้้นฟืู้ผูู้้ติดสุรา (ทยาวิีร์ จันทรวิิวิัฒน์ และคณะ, 2563)
สำหรับโรงพยาบาลป่าซาง พบวิ่า การบำบัดรักษาผูู้้ป่วยยังถือเป็นปัญหาสำคัญเนืองจากในพืนทีีมี การผู้ลิตสุราพืนบ้านและมีการจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ตลอดจนประเพณีวิัฒนธรรมการดืมสุราของคนพืนทีี
นอกจากนีผูู้้ป่วยทีีสมัครใจในการเข่้าร่วมการบำบัดมีค่อนข่้างน้อย การดำเนินงานในคลินิกเลิกสุรา มีการ
ประเมินและคัดกรองผูู้้ทีีมีปัญหาการใชุ้สุราด้วยแบบประเมิน AUDIT และ AWS หากมีปัญหาติดสุรา ผูู้้ป่วยจะ
ได้รับการบำบัดรักษาในคลินิกเลิกสุรา โดยการให้คำปร่กษาเพือสร้างแรงจูงใจในการเลิกสุรา ยังไม่มีโปรแกรม
บำบัดทีีเป็นรูปธรรม หากพบวิ่า มีอาการทางจิตจะได้รับการรักษาโดยแพทีย์ จากผลการติดตามการรักษายัง
พบวิ่า อัตราการใชุ้สุราซึ่ำโดยในปีงบประมาณ 2566 พบการเสพซึ่ำถ่งร้อยละ 52.17 ซึ่่งจะเห็นได้วิ่า ผูู้้ป่วยติด
สุรามากกวิ่าร้อยละ 50 มีการกลับมาใชุ้สุราซึ่ำภายใน 3 เดือนหลังได้รับการรักษา (ศัูนย์บำบัดยาเสพติด DAY
26































































   26   27   28   29   30