Page 142 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 142
74
ปัญญาบารมี ปัญญาทางธรรม ที่เราใส่ใจกาหนดรู้ถึงความเป็นจริง ถึงสัจธรรม ถึงอาการ พระไตรลักษณ์ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แล้วถ้าเห็นอย่างนี้ ถึงไม่ปล่อยเขาก็วาง ถึงอยากจะยึดก็จะยึด ไม่ได้ แล้วจะเห็นว่า อ๋อ! อะไรก็ยึดไม่ได้ วางเหอะ!ให้เขาเป็นอยู่อย่างนั้นเอง นี่แหละ คืออานิสงส์ของ การพิจารณาสภาวธรรม...รู้ให้ชัด
เพราะฉะนั้น ที่พูดมาทั้งหมดนี่นะ ให้เราพิจารณา น้อมกลับไปใส่ใจของเราและปฏิบัติ ขอทาใจ ว่าง ๆ แล้วเติมความสุขให้ตัวเองก่อน แล้วค่อยพิจารณาธรรมที่ว่ามา จะได้ปฏิบัติธรรมอย่างมีความสุข ตามกาหนดรู้อาการพระไตรลักษณ์อย่างมีความสุข ตามกาหนดรู้ความง่วงอย่างมีความสุข มีความสุขเมื่อ ไหร่เดี๋ยวความง่วงก็หาย เบิกบานในความสุข มีความเบิกบาน ความง่วงก็หายไป แล้วเราก็จะได้ปฏิบัติ การปฏิบัติธรรมของเราจะได้ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป
เพราะฉะนั้น วันนี้แสดงธรรมมาก็เห็นว่าสมควรแก่เวลา ก็ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความเจริญ ในธรรมจงมีแก่โยคีทุก ๆ คน เจริญพร
ก่อนที่เราจะลุกเปลี่ยนอิริยาบถ และปฏิบัติตามอัธยาศัยต่อ ตอนนี้เรามาแผ่เมตตากันก่อน ก่อน ที่เราจะแผ่เมตตาทุกครั้ง ขอให้น้อมถึงบุญกุศลที่เราได้ทา ทาใจให้ว่าง ๆ แล้วก็น้อมถึงบุญกุศลเข้ามา ใส่ใจที่ว่าง ๆ ที่สงบ น้อมถึงความสุข ความอิ่มใจ ความสบายใจ เข้ามาใส่บริเวณหัวใจเราให้เต็มในใจที่ ว่าง ๆ บริเวณหัวใจเราให้เต็ม ให้เต็มทั้งตัว ความนุ่มนวลอ่อนโยนด้วย ความสุขความอิ่มใจเติมให้เต็ม ทั้งตัว ให้ล้นจากตัว เพราะนั่นคือพลังบุญ ให้ล้นจากตัวให้กว้างให้เต็มทั้งห้องนี้ จิตที่เป็นบุญจิตที่มีความ สุขเต็ม เมื่อรู้สึกว่าจิตเราเต็มไปด้วยบุญ เต็มไปด้วยพลังของความสุข
ให้อธิษฐานจิตให้กับตนเอง ด้วยอานุภาพแห่งพลังบุญนี้ จงมาเป็นตบะ เป็นพลวะ เป็นปัจจัย ให้ เรามีสติ มีสมาธิ มีปัญญา มีดวงตาเห็นธรรมและเข้าถึงธรรมโดยฉับพลัน
จากนนั้แผจ่ติทเี่ปน็บญุ จติทมี่คีวามสขุนใี้หก้วา้งออกไปใหก้วา้งออกไปไมม่ขีอบเขตไมม่ปีระมาณ ใหก้ วา้ งเทา่ จกั รวาล แลว้ ตงั้ จติ อธษิ ฐานแผบ่ ญุ กศุ ลอนั นี้ ใหก้ บั ผมู้ พี ระคณุ ทงั้ หลาย ไมว่ า่ จะเปน็ พอ่ แม่ ครบู า อาจารย์ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนร่วมโลก เกิด แก่ เจ็บ ตาย เทวดาทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ สถาน ที่แห่งนี้และที่อื่น ๆ จงรับรู้ถึงบุญกุศลที่เราได้แผ่ไปแล้วนี้ เมื่อรับรู้แล้วก็ขอให้อนุโมทนา เมื่ออนุโมทนา แล้วถ้ามีทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้ามีสุขก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้ามีเวรมีภัยต่อกัน ก็ขอให้อโหสิกรรมซึ่ง กันและกัน เพื่อความเจริญความผาสุกในชีวิตตลอดไป
และสุดท้ายนี้ ก็ขออานิสงส์กุศลผลบุญต่าง ๆ ที่เราได้ทามา ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนา ที่ทามาและกาลังทาอยู่นี้ จงมาเป็นตบะ เป็นพลวะ เป็นปัจจัย ให้เราทั้งหลายจงเป็นผู้มี ความเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใด ก็ขอให้สาเร็จสมความปรารถนาทุก ๆ ประการ ตราบเท่า เข้าสู่มรรคผลนิพพาน ด้วยกันทุกคนเทอญ