Page 146 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 146

78
แตใ่ นขณะเดยี วกนั เหน็ อยา่ งไร ถงึ ไมท่ กุ ขก์ บั สงิ่ นนั้ เหน็ อยา่ งไร ไมใ่ หอ้ ารมณน์ นั้ เขา้ มาเบยี ดเบยี น จิตใจ หรือทาให้ขุ่นมัว เศร้าหมอง เป็นทุกข์ขึ้นมา ตรงนี้แหละที่สาคัญ คือเห็นไหมว่า รับรู้...จิตที่ทาหน้าที่รู้ ที่เห็นนี่นะ เห็นด้วยความรู้สึกว่า ด้วยจิตที่เป็นเรา เราเป็นผู้เห็น เราเป็นผู้ได้ยิน หรือจิตที่สงบ จิตที่ว่าง ว่างจากตัวตน เป็นผู้เห็น เป็นผู้ได้ยิน เป็นผู้กระทา อันนี้คือสาคัญว่า ตรงนี้เขาเรียกว่า รู้โดยบัญญัติ รู้เรื่องราว
แตถ่ า้ เราสงั เกตวา่ รเู้ รอื่ งราวดว้ ยความรสู้ กึ ทไี่ มม่ ตี วั ตน มแี ตจ่ ติ ทสี่ งบ ทวี่ า่ ง วา่ งจากตวั ตน มคี วาม สงบ มีความมั่นคง มีความเบา มีความใส ทาหน้าที่รับรู้ ลองดูว่า ไม่มีตัวตนแล้ว การรับรู้แบบนี้ ทาจิต ของเราให้กว้างนี่นะ บอกไม่มีเรา ก็ใช้เรียก...เราอีกแล้ว ทาจิตที่เบาว่างให้กว้างไม่มีขอบเขต พอกว้างไม่มี ขอบเขต ลองสังเกตดูอีกนิดหนึ่งว่า จิตยิ่งกว้างนี่นะ จิตที่กว้างเบา จิตดวงนั้นปฏิเสธอะไรบ้าง จิตที่ว่าง จิตที่เบาไม่มีขอบเขต มีความอยากอะไรบ้าง อยากยึดอะไรบ้าง หรือปล่อยวางอะไรไปบ้าง
หรือจิตที่กว้าง ว่าง ไม่มีตัวตน แล้วกว้างนี่นะรู้สึกดีอย่างไร กับจิตที่อยู่แคบ ๆ และมีเรา อันไหน สบายกวา่ กนั คา ถามแบบนกี้ ค็ อื วา่ ทา ไมถงึ ถามวา่ จติ ทวี่ า่ งทกี่ วา้ งเบานนี่ ะดอี ยา่ งไร สงั เกตไหม พอจติ ทวี่ า่ ง ที่กว้าง และว่าง และเบาสงบนี่นะ เขาไม่ปฏิเสธอารมณ์อะไร แล้วรู้สึกเป็นอย่างไร เป็นอิสระ เป็นธรรมชาติ มีความสุขในตัว เกิดขึ้น ตั้งอยู่ อะไรเกิดขึ้นมา ก็เกิดตามนั้นไป เกิดดับไป
แต่เมื่อไหร่ที่มีเรา มีเราขึ้นมาปุ๊ป รู้สึกมีน้าหนัก มีความเป็นตัวตนเกิดขึ้น มีน้าหนักเกิดขึ้น อารมณ์ เข้ามา เวลากระทบนี่นะ เราจะเห็นว่า อารมณ์เกิดที่ไหน แต่กระทบใจเสมอ...ใช่ไหม เสียงดังอยู่ที่ไหน ก็ กระทบที่ใจเสมอ เรื่องเกิดที่บ้าน ก็มากระทบที่ใจอยู่ตรงนี้เสมอ เพราะอะไร สังเกตดูว่าเพราะอะไร เราเคย ได้ยินว่า เกิดที่ไหนดับทีนั่นไหม อะไรเกิดแต่เหตุก็ดับแต่เหตุ เขาเรียกว่าเกิดที่ไหนก็ดับที่นั่น เหตุที่เกิด จริง ๆ แล้ว ความหมายอะไร เกิดแต่เหตุก็ดับแต่เหตุนี่นะ เหตุทาความ...เหตุคืออะไร เหตุทางความทุกข์ ที่เกิดขึ้น คืออวิชชา ก็ต้องดับอวิชชา ต้องละอวิชชานี่นะ อันนี้อย่างหนึ่ง
ทีนี้ลองดูว่า ถ้าจิตที่ว่างเบานี่นะให้กว้าง มองแล้ว แทนที่จะดึงอารมณ์นั้นเข้ามาที่ใจ ให้จิตที่ว่าง กว้าง แล้วไปที่อารมณ์นั้น ให้สิ่งนั้นเกิดตรงนั้น แล้วหยุดตรงนั้นนี่นะ ลองดูว่าจิตใจรู้สึกเป็นอย่างไร เกิด ตรงนั้นแล้วดับตรงนั้น กิเลสเกิดไหม นี่คือการที่เรากาหนด คือการพิจารณาสภาวธรรม ถ้าไม่มีตัวตน จะ ทาให้เห็นธรรมชาติของสิ่งนั้น ๆ ได้ชัดขึ้น เห็นธรรมชาติของอารมณ์ต่าง ๆ ได้ชัดขึ้น
ทนี คี้ า วา่ ธรรมชาตขิ องสงิ่ นนั้ ไดช้ ดั ขนึ้ อารมณต์ า่ ง ๆ ไดช้ ดั ไมใ่ ชอ่ ารมณภ์ ายนอกอยา่ งเดยี ว ไมใ่ ช่ อารมณภ์ ายนอกอยา่ งเดยี ว ทสี่ า คญั คอื จติ ของเรา อารมณภ์ ายในคอื จติ ใจ คอื ความ...คอื ความอยาก ความ ชอบ ไมช่ อบทเี่ กดิ ขนึ้ ภายในของเรานนี่ ะชดั ดว้ ย และชดั แลว้ ควรทา อยา่ งไร ตรงนถี้ า้ ไมม่ ตี วั ตน เวลาผสั สะ ขึ้นมาเวทนาเกิดขึ้น ความคิดมันเกิดขึ้นนี่นะ เราจะเห็นได้เร็ว รู้สึกไหมว่า พอจิตเราไม่มีตัวตน จิตว่าง จิตกว้างปุ๊ป พอสงบปุ๊ป จะรู้สึกว่าอารมณ์อะไรที่ละเอียดเราก็รู้สึกได้ แม้แต่ความคิดนิดหนึ่ง คิดนิดหนึ่ง ขึ้นมาเราก็รู้ทัน


































































































   144   145   146   147   148