Page 251 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 251
ความเข้าใจเร่ืองการเจาะสภาวะและการเพ่ิมตัวมุ่ง
ณ ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เขมรังสี (ศูนย์ ๔) จ.พระนครศรีอยุธยา วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่โยคีทุก ๆ คน นั่งตามสบายนะ วันนี้พูดถึงเจาะสภาวะ ทุกคนก็ พยายามเจาะสภาวะ ทาไมถึงเรียกว่า “เจาะสภาวะ” ? ตรงน้ีถ้าเรารู้จักเจาะสภาวะ เราก็ปั่นการบ้านได้ เหมือนกัน ใช่ไหม ? ทาไมถึงเรียกว่าเจาะสภาวะ ? บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน... มีการเจาะสภาวะด้วย เหรอ!? จริง ๆ ก็เคยพูดไปแล้ว ที่บอกว่าเจาะสภาวะนี่ไม่ใช่เอาจิตไปเจาะแบบชอนไชอย่างน้ันนะ คาว่า “เจาะสภาวะ” เราปฏิบัติวิปัสสนา เป้าหมายของการปฏิบัติคือ การกาหนดรู้อาการพระไตรลักษณ์ เพราะ ฉะนั้น การเจาะสภาวะ คือ การมีเจตนาท่ีจะรู้อาการเกิดดับของทุก ๆ อารมณ์ให้มากที่สุด มุ่งไปรู้ท่ีอาการ เกิดดับให้มากท่ีสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แค่น้ี! หลักของการเจาะสภาวะ
ทีน้ี การเจาะสภาวะนั้นดีอย่างไร ? ทาไมเราต้องเจาะสภาวะด้วย ? จริง ๆ แล้วที่ใช้คาว่า “เจาะ สภาวะ” คอื การมเี จตนา ถา้ ภาษาเขากเ็ รยี กวา่ มนสกิ าร มคี วามใสใ่ จในสภาวธรรมทเี่ กดิ ขนึ้ โยนโิ สมนสกิ าร ใส่ใจในสภาวธรรมท่ีกาลังปรากฏให้แยบคายมากขึ้น และมีเจตนาเข้าไปรู้การเปลี่ยนแปลง เจตนาที่จะรู้ การเกิดดับที่ต่างไป ต่างไป... เพราะการเกิดดับที่ต่างออกไปที่เปลี่ยนไป ตรงนั้นเขาเรียกว่า สภาวญาณ มันเป็นปัญญาที่เกิดขึ้นมาที่เราได้เห็นจริง ๆ ด้วยความรู้สึก ด้วยใจของเราเอง เห็นด้วยตาของเราเอง ถ้า เราไม่ใส่ใจแบบน้ีก็จะไม่เห็นหรอก แค่ได้แต่รู้...แต่ไม่เห็น! กับการเห็นด้วยตาปัญญาของเราน่ี เราจะเห็น จริง ๆ
เคยได้ยินคาว่า “รู้แจ้ง” ไหม... คาว่า “รู้แจ้งเห็นจริง” ? แต่เรารู้แล้วไม่แจ้ง เรารู้แบบสลัว ๆ ก็มี รู้แล้วไม่สว่าง ทาไมเรารู้แจ้ง ? พอรู้ชัดปุ๊บจิตมันสว่างขึ้นมา ยิ่งรู้ยิ่งชัดยิ่งผ่องใสยิ่งเบิกบาน...จิตยิ่งสว่าง ขึ้น เรารู้ชัดเลยว่าอาการเขาเป็นแบบนี้จริง ๆ รูปนามต่างกันแบบนี้จริง ๆ แยกส่วนกันจริง ๆ พอยกจิตข้ึน สู่ความว่าง ไม่มีตัวตน ก็ไม่มีจริง ๆ เพราะฉะนั้น การยกจิตขึ้นสู่ความว่างในเบื้องต้นที่เราทากันนี่ ยกจิต ขึ้นสู่ความว่าง ยกจิตขึ้นสู่ความว่าง... ตอนน้ันยังไม่ได้เจาะสภาวะนะ น่ันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการปฏิบัติ ธรรม เป็นจุดเร่ิมต้นของการทาจิตให้ว่างก่อนที่จะมุ่งไปสู่ข้ันตอนต่อไป
183