Page 398 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 398
330
ค ดิ ว า่ เ ข า้ ใ จ ม า ก ข นึ ้ น ะ . . . ก เ็ ห น็ ว า่ ส ม ค ว ร แ ก เ่ ว ล า ก ข็ อ ห ย ดุ ไ ว แ้ ต เ่ พ ยี ง เ ท า่ น ี ้ ข อ ใ ห เ้ จ ร ญิ ใ น ธ ร ร ม ก นั ทกุ ๆ คน กอ่ นทจี่ ะเปลยี่ นอริ ยิ าบถในการปฏบิ ตั ธิ รรมตามอธั ยาศยั ใหเ้ ราแผเ่ มตตากนั กอ่ น ฟงั ธรรม-ปฏบิ ตั ิ ธรรมมาทั้งวัน การที่เราได้สร้างบุญสร้างกุศลมาตลอดทั้งวันแล้ว ตอนนี้มาทาใจของเราให้สงบ ทาใจให้ ว่าง ๆ ทาใจของเราให้บริสุทธิ์ แล้วน้อมระลึกถึงบุญกุศลที่เราได้ทา น้อมเข้ามาใส่ใจของเราให้เต็ม แล้วตั้ง จิตอธิษฐาน ด้วยอานาจแห่งบุญกุศลนี้ จงมาเป็นตบะ เป็นพลว เป็นปัจจัย ให้ชีวิตของเรามีแต่ความเจริญ มแี ตค่ วามรงุ่ เรอื ง มคี วามสงบ ทา อะไรกใ็ หร้ าบรนื่ หรอื ขอใหก้ ารปฏบิ ตั ธิ รรมของเราจงเปน็ ไปเพอื่ มรรคผล นิพพานโดยฉับพลัน อันนี้แล้วแต่เราจะอธิษฐานให้กับตัวเอง
อาศัยกาลังของบุญที่เราได้ทา น้อมเข้ามาใส่ใจของเราให้เต็ม เมื่อจิตของเราเต็มไปด้วยบุญ เต็ม ไปด้วยความอิ่ม เต็มไปด้วยความสุข เต็มไปด้วยความสบายใจ ก็แผ่ใจที่มีความสุข ที่มีความอิ่ม ความ นิ่มนวล ความอ่อนโยนนี้ให้กว้างออกไป ไม่มีขอบเขตไม่มีประมาณ ให้กว้างเท่าจักรวาลไปเลย แล้วตั้งจิต อธิษฐานแผ่บุญกุศลอันนี้ให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ลูกหลาน ญาติสนิท มิตรสหาย เพื่อนร่วมโลกเกิดแก่เจ็บตาย เทวดาทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้และที่อื่น ๆ จงรับรู้ถึง บุญกุศลที่เราได้แผ่ไปแล้วนี้ เมื่อรับรู้แล้วก็ขอให้อนุโมทนา เมื่ออนุโมทนาแล้ว ถ้ามีทุกข์ก็ขอให้พ้นจาก ทุกข์ ถ้ามีสุขก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้ามีเวรมีภัยต่อกัน ก็ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน เพื่อความเจริญ ความผาสุกในชีวิตตลอดไป
และสุดท้ายนี้ ก็ขออานิสงส์กุศลผลบุญต่างๆ ที่เราได้ทามา ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนา ที่ทามาและกาลังทาอยู่นี้ จงมาเป็นตบะ เป็นพลว เป็นปัจจัยให้โยคีทั้งหลาย จงเป็นผู้มี ความเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใดก็ให้สาเร็จสมความปรารถนาทุก ๆ ประการ ตราบเท่าเข้าสู่ มรรค ผล นิพพานด้วยกันทุกคนเทอญ