Page 500 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 500

432
ที่ไม่มีตัวตนรับรู้ ป้องกันความเครียด ป้องกันความทุกข์ พูดง่าย ๆ โลภะ โทสะ หน้าตาเป็นอย่างไร นึก ไม่ออกนะ
ถ้าป้องกันความทุกข์ได้ก็สบายแล้ว ไม่ต้องไปคิดมาก เอ่อ!มองแล้วรู้สึก เอ่อ!ไม่กระทบ ไม่รู้สึก อึดอัดนะ แค่นั้นเอง มองแล้วรู้สึกว่าง ๆ สบายจังเลย ไม่มีกระทบ ไม่รู้สึกว่าต้องอึดอัด ต้องเกร็ง นั่นคือ การใช้จิตที่ว่างไปรับรู้อารมณ์ ทีนี้การที่เราสารวจหมั่นพิจารณา นี่คือการปฏิบัติธรรม การที่เราใส่ใจไปดู สภาพจิต รู้อาการ ดูสภาพจิตเรื่อย ๆ นี่นะ นี่คือการปฏิบัติธรรม ทีนี้พอเราสังเกตอาการนี่นะ เกิดอยู่ใน ที่ว่าง ๆ อาการอื่นก็เช่นเดียวกัน รูปนี้ตั้งอยู่ในที่ว่าง ๆ เวลาความคิดเกิดขึ้นมา ก็ต้องกาหนดรู้ ให้คิด... ความคิดนั้นเกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ ได้ไหม เสียงเกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ ได้ แล้วความคิดให้เกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ ได้ ไหม ตรงนี้เรากาหนดได้เลย
เพราะอะไร ถ้าใครทาได้นะ ในนี้ทาได้หมด เอ่อ! คือทาให้ได้ เพราะถ้าเมื่อไรที่เราทาใจให้กว้างได้ ใจทมี่ นั เบาใหก้ วา้ งกวา่ ตวั ได้ ตวั ทนี่ งั่ อยใู่ นทวี่ า่ ง ๆ ได้ ลองดสู ิ เวลาทเี่ ราคดิ ถงึ คน คนจะตวั ใหญก่ วา่ เราแค่ ไหน คอื ไมใ่ หญก่ วา่ ตวั เรามากแคไ่ หน อยา่ งเชน่ ศาลานนี่ ะ กวา้ งแคไ่ หน จติ เรากวา้ งกวา่ ศาลานไี้ ดไ้ หม ถา้ เรา กว้างกว่าศาลานี้ได้ ตัวคนจะใหญ่กว่าศาลานี้...แค่ไหน ไม่มีทางที่จะใหญ่กว่านี้หรอก นอกจากจินตนาการ เอานะ คือถ้าความรู้สึกจริง ๆ พอจิตเรากว้างแบบนี้ การรับรู้กว้างกว่าอารมณ์ ความคิดที่เกิดขึ้นนี่นะ อัน นี้คือยกตัวอย่าง...คน ศาลา ก็คือรูป
เขาเรียกว่าการรับรู้อารมณ์ รูปต่าง ๆ มีผัสสะทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ พอกาหนดรู้แบบนี้ปึ๊บ จิต กว้างกว่าอารมณ์ ทีนี้ความคิดที่เกิดขึ้น ถ้าความคิดนั้นปรากฏอยู่ในที่ว่าง ๆ การเจาะสภาวะ การพิจารณา สภาวธรรมทจี่ ะกา้ วหนา้ ขนึ้ นนี่ ะ อนั นตี้ อ้ งจา ไวเ้ ลยวา่ สภาวธรรมเหลา่ นี้ รอู้ าการเกดิ ดบั เปน็ หลกั เลย ความ คิดไม่ว่าจะเป็นความคิดแบบไหน เป็นความคิด...เราแบ่งเป็น ๓ อย่าง ๑.ความคิดในเรื่องกุศล ๒.อกุศล ๓.ความคิดเป็นสัพเพเหระ หรือเป็นกลาง ๆ ไม่เกี่ยวกับกุศลหรืออกุศล
๓ อย่างนี้ เราย่อลงมาตรงนี้ จะกี่เรื่อง กี่ครั้ง เกิดบ่อยแค่ไหนก็ตาม สรุปว่าความคิดเป็นกุศล เป็น อกุศล หรือเป็นกลาง ๆ เป็นสัพเพเหระ พอเกิดกี่ครั้งก็ตาม ก็อยู่ในวงจรอันนี้ คิดดีคิดไม่ดี คิดเฉย ๆ คิด ทั่ว ๆ ไป ทีนี้ความคิดเหล่านี้ ที่เราจะกาหนดการเกิดดับเขาได้ง่าย...ก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นความคิดแบบไหน ก็ตาม ท่ีบอกความคิดไม่เที่ยงนี่นะ ก็ต้องกาหนดรู้ ให้มีเจตนากาหนดรู้ว่า ความคิดที่เกิดขึ้นนั้น เกิดดับ แบบไหน ตรงนี้กลายเป็นว่า นี่คือสภาวะอย่างหนึ่ง
เพราะฉะนั้น สภาวธรรมที่เราจะรู้ ที่ปรากฏขึ้นมาให้เรารู้ ไม่มีอะไรที่ต่างจากนี้นะ มีกาย เวทนา จิต ธรรม เป็นอารมณ์ ๔ อย่าง ที่วนกลับมาให้เราได้รับรู้ อาการทางกายในอิริยาบถย่อย อิริยาบถหลัก ในขณะเดิน ขณะนั่ง ขณะนอน ก็เป็นอาการทางกาย อาการทางจิต เป็นความคิด เป็นสภาพจิต เป็นตัวรู้ก็ เป็นอาการของจิต แม้จะเกิดในอิริยาบถไหนก็ตาม ก็เป็นลักษณะของจิตที่ปรากฏขึ้นมา ทีนี้เวลาเราปฏิบัติ ธรรม ในขณะที่เราปฏิบัติธรรมนี่นะ สิ่งหนึ่งที่เราต้องจาหรือต้องเข้าใจก็คือว่า เราปฏิบัติเพื่อขัดเกลาจิตใจ ของเรา เพื่อให้รู้ เห็นอาการพระไตรลักษณ์...ชาระจิต


































































































   498   499   500   501   502