Page 633 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 633
565
ไม่มีอะไร แต่เป็นความรู้สึกโล่งที่มีสติมีพลังอยู่ในตัว ถ้ามีความรู้สึกโล่ง ๆ กลวง ๆ เมื่อไหร่ แสดงว่าขาด พลังไป เบา ๆ โล่ง ๆ กลวง ๆ โหวงเหวง อันนั้นจะรู้สึกได้เลยว่าจิตไม่มีพลัง
เพราะฉะนั้น การให้มีบรรยากาศรองรับสามารถใช้ได้ตลอดเวลา ทุกขณะ ทุกอิริยาบถ เวลานั่ง กรรมฐานก็ให้มีบรรยากาศรองรับ จะรู้สึกเลยว่านั่งอยู่ท่ามกลางความสงบ และเพื่อความต่อเนื่องของ สภาวธรรมของเรา อย่างเช่น ตอนกลางวันเรานั่งปฏิบัติแล้วรู้สึกจิตสงบมากเลย ตอนนี้พอเริ่มนั่ง...ก็ให้ อยู่ในบรรยากาศของความสงบนั้นเช่นเดียวกัน บรรยากาศของความสงบนั้นจะมาจากที่ไหน ? จากความ รู้สึกเรา เหมือนที่บอกเมื่อกี้ พอดูความรู้สึกที่สงบ แล้วความสงบกว้างขึ้น จับที่ความรู้สึกก่อนเลย ความ รู้สึกยังสงบอยู่ แต่บางครั้งสงบแค่นิดหนึ่ง ความสงบแม้นิดเดียว พอเรานิ่งเข้าไปจับความรู้สึกที่สงบ เขา ก็จะกว้างขึ้น ก็ให้กว้างขึ้น เพราะฉะนั้น จับที่ความรู้สึกที่สงบ ไม่ใช่แค่อาการที่สงบ
ความรู้สึกที่สงบ คือจิตที่สงบ จิตที่สงบสามารถกว้างไม่มีขอบเขตได้ พอจับถูกความรู้สึกที่ สงบหรือจิตที่สงบปุ๊บเขาก็จะกว้างขึ้นอีก พอกว้างมาก็กลายเป็นบรรยากาศ พอเป็นบรรยากาศของความ สงบปึ๊บ ตรงนี้แหละที่เราตั้งเจตนาจะกาหนดรู้อาการที่เกิดขึ้น ให้เกิดขึ้นในบรรยากาศของความสงบเรา และโดยเฉพาะจะเกิดดับในลักษณะอย่างไรต่อไป อย่างที่บอกแล้วว่า อาการที่เกิดในบรรยากาศของ ความสงบ ไม่ว่าจะเป็นเสียง เป็นความคิด เป็นเวทนา หรือเป็นอาการของกายปรากฏขึ้นมา ก็ปรากฏใน ความสงบด้วย การมีเจตนาที่จะรู้แบบนี้ จะทาให้จิตเรามีกาลัง และรับรู้อารมณ์อย่างไม่มีตัวตน
ทนี กี้ ารเจาะสภาวะ เวลาเราเจาะสภาวะใหม้ งุ่ ไปรอู้ าการเกดิ ดบั ของอารมณท์ ปี่ รากฏอยใู่ นบรรยากาศ ถ้าอารมณ์ที่ปรากฏอยู่ในบรรยากาศเป็นอาการของกาย/ของรูปเราเอง คือบริเวณตัวมีอาการเกิดดับ อย่างใดอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาแต่ไม่มีรูปร่างของตัว เมื่อไม่มีรูปร่างของตัวแล้วเหลืออะไร ? ก็เหลือ บรรยากาศของความรู้สึกที่สงบมีความตั้งมั่น อันนี้แล้วแต่บุคคลนะ แต่ละคนต้องรู้ถึงบรรยากาศของ ตัวเอง อาจารย์ยกตัวอย่างถึงบรรยากาศของความสงบ ความเบา ความใส ความสุข... แต่บรรยากาศของ เราตรงกับแบบไหนก็ให้รู้ชัดตามนั้น ถ้าบรรยากาศของความรู้สึกเราใส ก็รู้ว่าเขาเกิดอยู่ในบรรยากาศของ ความรู้สึกที่ใส ถ้าบรรยากาศของความรู้สึกเราสงบ ก็รู้ชัดว่าเขาเกิดในบรรยากาศของความสงบ
ทนี ี้ ทพี่ ดู ถงึ วา่ บรเิ วณตวั เขาไมม่ ตี วั แลว้ เหลอื แตบ่ รรยากาศของความรสู้ กึ ทสี่ งบ เหลอื แตบ่ รรยากาศ ของความรู้สึกที่ใส เหลือแต่บรรยากาศของความรู้สึกที่มีความสุข เพราะฉะนั้น อาการที่เกิดขึ้นบริเวณตัว ก็เกิดอยู่ในความสงบ เกิดอยู่ในความใส เกิดอยู่ในความสุข นี่คือเราต้องมีเจตนา ต้องสังเกตต้องใส่ใจ ไม่ใช่แค่ดูไปเฉย ๆ เรามีเจตนาสังเกตแบบนี้แล้วบรรยากาศเขาจะปรากฏชัดขึ้นเอง ใหม่ ๆ อาจจะมีการ สลับบ้าง เมื่อรู้อารมณ์ที่ปรากฏอยู่ในบรรยากาศไปสักพัก อาการเกิดดับหมดไป ลืมดูบรรยากาศ ถ้า บรรยากาศหายไปก็มาจับที่ความรู้สึกต่อ แล้วก็สังเกตเหมือนเดิม ทาซ้า ๆ แบบนี้ สังเกตแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ จะทาให้เราอยู่แบบใช้ความรู้สึกกว้าง มีบรรยากาศรองรับ มีสมาธิรองรับ
และบรรยากาศตรงนี้ที่เป็นความสงบ ต่อไปถ้าสติมีกาลังแก่กล้าขึ้นก็จะเป็นอารมณ์ของฌาน เป็นอารมณ์ฌานที่มีบรรยากาศรองรับ มีพลังห่อหุ้มตัวอยู่เรื่อย ๆ รับรู้ผ่านบรรยากาศ—ยืนก็ยืนอยู่ใน