Page 65 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 65

585
แต่อารมณ์ที่เข้ามากระทบ ไม่มีการวางแผน ที่เรียกเป็นอารมณ์จร เป็นวิบากที่ไม่ได้ตั้งใจ ปรากฏ เกิดขึ้นมา ถ้าเราไม่มีสติ หรือไม่ฝึกจิตให้ดี สติไม่ดี ไม่พร้อมที่จะรับ ไม่พร้อมที่จะรู้ ไม่พร้อมที่จะเข้าใจ ไม่พร้อมที่จะรับรู้ ด้วยความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน มักจะมีผลกระทบที่ทาให้เกิดความทุกข์ ที่คาดไม่ถึงเหมือน กัน เพราะฉะนั้น การฝึกจิตของเรา การใช้ความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน พิจารณา...พร้อมที่จะกาหนดรู้อารมณ์ ต่าง ๆ ให้เป็นสภาวธรรม
อารมณ์ไหนก็ตาม อย่างเช่น เราปฏิบัติอยู่นี่นะ เราเข้าคอร์ส ๑๐ วัน ๗ วัน นั่นคือการเข้ามาฝึก ฝึกให้เป็นเรื่องปกติ ให้เกิดความชานาญ ให้เกิดความคล่องตัว ปรับอะไร ฝึกสติให้ไวขึ้น ฝึกสติให้แก่กล้า ขึ้น ฝึกสมาธิให้ตั้งมั่นขึ้น ฝึกจิตของเรา ฝึกปัญญาให้เข้าใจ ให้เฉียบแหลมมากขึ้น เพื่ออะไร โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง การฝึกสติ ฝึกสมาธิ ฝึกปัญญา รู้วิธีการจัดการกับอารมณ์ รู้วิธีการกาหนดอารมณ์ ทาอย่างไรถึง จะดับเร็วขึ้น อันนี้อย่างหนึ่ง
อีกอย่างหนึ่งก็คือฝึกแล้ว...การได้เห็น การได้เห็น การได้สัมผัสถึงสภาวธรรมที่เป็นจริง อย่างที่ บอกว่า เขาบอกอะไรกับเรา ความเชื่อเก่า ๆ ความเห็นเก่า ๆ ความเข้าใจเก่า ๆ ที่ผ่านมา กับสภาวะที่กาลัง ปรากฏอยู่เฉพาะหน้าของเรา ที่เห็นด้วยตาปัญญาของตัวเองจริง ๆ อันไหนที่ต่างกัน อันไหนที่เหมือนกัน เราจะเปลี่ยนทัศนคติของเรา เปลี่ยนความเห็น ความเชื่อของเรา จะเชื่อสิ่งที่กาลังเกิดขึ้น สิ่งที่กาลังเห็นอยู่ หรือเชื่อสิ่งที่เราคิดว่าน่าจะเป็น ตรงนี้คือสภาวธรรมที่เกิดขึ้น เราปฏิบัติคือ...เห็น ให้รู้ให้ชัดในสภาวธรรม ที่กาลังปรากฏ ทั้งความคิด ทั้งสภาพจิต
อย่างที่บอกแล้วว่า การกาหนดรู้อาการพระไตรลักษณ์ ของอารมณ์ที่เป็นปัจจุบันขณะนั้น ทาให้ จิตผ่องใสขึ้น ทาให้จิตตั้งมั่นขึ้น ทาให้สติแก่กล้าขึ้น จริง ๆ คาตอบคืออะไร คาตอบ หรือคาตอบปรากฏ ชัด ๆ ก็คือว่า ไม่ต้องไปหาที่ไหน คือวิธีการแบบนี้ ทาให้สติแก่กล้าขึ้น ทาให้จิตตั้งมั่นขึ้น จิตที่ตั้งมั่นขึ้น... ดีอย่างไร สติที่แก่กล้าขึ้นอย่างไร ปัญญาที่ละเอียดขึ้นดีอย่างไร คาตอบคือเราเป็นผู้รู้เอง เราเป็นผู้รับผล โดยตรงนะ ไม่ต้องไปถามหาเหตุผลจากใคร นั่นคือเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นโดยตรง
แตเ่ ราเขา้ ใจวา่ เหน็ ความดขี องกระทา แบบนแี้ ลว้ ควรทา อยา่ งไร ควรจะทา อยา่ งไร ควรจะมคี วามเพยี ร ปฏิบัติให้ต่อเนื่อง แต่บางทีเรารู้สึกว่ามันดีได้ชั่วขณะหนึ่ง ดีได้ไม่ต่อเนื่อง ดีได้สั้น ๆ เพราะว่าเขาดีได้ สนั้ ๆ นแี่ หละ จงึ ตอ้ งขยนั ตอ้ งมคี วามเพยี รทา ใหต้ อ่ เนอื่ ง ด.ี ..ถงึ จะยาวขนึ้ จติ ทผี่ อ่ งใส จะใสสะอาดมากขนึ้ ตั้งอยู่ได้นานขึ้น จะได้เป็นปกติมากขึ้น ลองดูว่า เวลาเราจิตผ่องใส จิตมีความสะอาด แต่ถ้ามีตัวตน เข้ามา มีอกุศลเกิดขึ้น จิตที่ผ่องใสที่ความสะอาดนั้นเป็นอย่างไร ที่เราเรียกว่าจิตตก มันดรอพ (Drop) ลง กาลังความดีลดลง พลังความดีลดลง แล้วดีไหม กลายเป็นว่าอยู่กับความทุกข์ อยู่กับความไม่สบายใจ อัน นั้นคืออย่างหนึ่ง เป็นผลที่โดยตรงที่เกิดขึ้นกับเรา
ไม่ต้องไปถามหาเหตุผลอะไรเลย เพราะจิตเป็นอกุศล จิตเป็นอกุศล ความทุกข์ก็เกิดขึ้น เพราะ ฉะนั้นนี่นะ สังเกตดูว่า การขัดเกลาจิตใจทาอย่างไร อะไรคือเครื่องมือที่สาคัญ สติ สมาธิ ปัญญา สติสมาธิ ปัญญา เป็นเครื่องมือที่สาคัญ และสิ่งที่จะพาให้เรา...ทาให้จิตของเราพัฒนาขึ้นดีข้ึน ปัญญาก้าวหน้าขึ้น


































































































   63   64   65   66   67