Page 106 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 106

102
ตัวเราให้เกิดขึ้นภายในจิตใจของเราจริง ๆ เท่านั้น เราถึงจะรู้ถึงคุณค่า ถึงอานิสงส์อันแท้จริงที่เกิดจากธรรมะคาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมา- สมั พทุ ธเจา้ แลว้ เราจะรวู้ า่ พระองคน์ นั้ เปน็ ผปู้ ระเสรฐิ เปน็ ผยู้ งิ่ ใหญใ่ นโลก จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทวดาหรือมนุษย์ทั้งหลายก็ยกให้พระองค์เป็นศาสดา ผู้ที่ยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียบทัน เพราะพระองค์ปฏิบัติขวนขวายได้ตรัสรู้ โดยพระองค์เอง เป็นผู้ไกลจากทุกข์ เป็นผู้ออกจากทุกข์ และสามารถชี้ ทางพ้นทุกข์ให้กับสรรพสัตว์ต่าง ๆ ทั้งหลายได้ เพราะฉะนั้น ขอให้เรา น้อมธรรมะของพระองค์เข้ามาใส่ตัวเราเพื่อเป็นแนวทางในการเดินทาง ที่จะออกจากทุกข์
วันนี้การแสดงธรรมมาก็เห็นว่าสมควรแก่เวลา ก็ขอหยุดไว้แต่ เพียงเท่านี้ ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่โยคีญาติโยมทุก ๆ คน ต่อไป เราจะนั่งกรรมฐานอีกสักระยะหนึ่งก่อนที่จะแผ่เมตตา น้อมเอาธรรมะมา ใส่ใจเรา คือทาจิตของเราให้สะอาด ให้ว่าง ให้ผ่องใส เพื่อน้อมถวายเป็น พุทธบูชา ทาจิตของตนเหมือนเราอยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์ เหมือน ดั่งที่พระองค์ทรงตรัสกับพระวักกลิ “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต” การเห็นธรรมตรงนั้นคืออะไร ? คือเห็นสัจธรรม เห็นความจริง เห็น ความเป็นอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา เห็นถึงความอิสระของจิต ความผ่องใส ของจิต เห็นถึงความไม่ทุกข์ รู้ถึงว่าทุกข์ดับแล้ว
ขณะที่จิตของเรามีความผ่องใส ไม่มีตัวตน จิตที่เป็นมหากุศลนั้น ลองน้อมระลึกนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจะรู้สึกว่าเรา ไม่ได้อยู่ไกลพระองค์เลย ถึงแม้วันเวลาจะผ่านไปสองพันกว่าปีแล้ว แต่ เมื่อไหร่ก็ตามที่จิตเราเข้าถึงความเป็นอนัตตา น้อมระลึกนึกถึงพระองค์ เมื่อไหร่ เราก็จะรู้สึกเหมือนอยู่แทบพระบาทของพระองค์ และใครก็ตาม


































































































   104   105   106   107   108