Page 148 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 148
144
อย่างไร ? ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ? มีดาริที่จะออกจากทุกข์ ที่บอก “การ เกิดทุก ๆ คราวเป็นทุกข์ร่าไป” อย่างที่พระองค์ทรงแสดง ถ้าเราพิจารณา อย่างนี้ เราจะเห็นว่าตลอดเวลาชีวิตเรา อารมณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ด้วยความไม่รู้ความไม่เข้าใจทาให้อารมณ์ เหล่านั้นมาครอบงาจิตใจ บั่นทอนจิตใจ บีบคั้นให้เราเป็นทุกข์ไปต่าง ๆ นานา แต่จริง ๆ แล้วก็เป็นสภาวธรรมอย่างหนึ่งที่กาลังเป็นไปตามเหตุ ปัจจัย รู้อย่างนี้แล้วจะทาอย่างไร ?
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “การเกิดทุกคราวเป็นทุกข์ร่าไป” เพราะ อะไร ? เกิดเมื่อไหร่ก็มีการสัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หมุนเวียน เปลี่ยนไปเจอทั้งสิ่งที่ด/ีไม่ดีชอบ/ไม่ชอบวนเวียนอย่างนี้ไม่มีจุดเริ่มต้น ไมม่ ที สี่ นิ้ สดุ เพราะฉะนนั้ ใครเหน็ ทกุ ขเ์ หน็ โทษของการเวยี นวา่ ยตายเกดิ ก็ควรที่จะมีเจตนาที่จะดาริที่จะออกจากทุกข์ ที่จะออกจากวัฏสงสาร เดินทางไปสู่เป้าหมายเพื่อการดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง ใครที่ไปถึงจุดนั้นแล้ว ก็จะรู้ว่าการที่ออกจากวัฏสงสารทั้งหมดแล้วเป็นอย่างไร ภพชาติหน้ามี หรือไม่มีก็จะรู้เอง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ยังเวียนว่ายตายเกิด เราก็ไม่สามารถ ปฏิเสธได้ว่าภพหน้ามีหรือไม่มี หรือจะไปเกิดในภพไหนเราก็ยังไม่รู้
แต่สิ่งที่รู้คือปัจจุบันนั้นเราทาอย่างไร การกระทาดี การมีสติ พิจารณาถึงสัจธรรมความจริงข้อนี้ที่เป็นมหากุศล ทาให้เกิดปัญญา พิจารณาถึงความเป็นจริง เมื่อมีปัญญาเกิดขึ้น จิตเป็นกุศลขึ้น แน่นอน ว่าการเดินทางของเราไปสู่เส้นทางเดียว คือความดับทุกข์ คือมรรคผล นิพพาน หรือที่เรียกว่าสุคติ เดินไปสู่เส้นทางแห่งความสุข ถึงแม้ยังไม่ถึง มรรคผลนิพพาน ไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่การกระทาความดีอย่างนี้ การบาเพ็ญ เพยี รปฏบิ ตั ธิ รรม การขดั เกลาจติ ใจของตน ทา อกศุ ลใหล้ ดนอ้ ยลง คอื เสน้