Page 170 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 170

166
จ ดุ ส า ค ญั / ป ร ะ เ ด น็ ท เี ่ ป น็ ป ร ะ โ ย ช น ์ ก จ็ ะ เ ป น็ ค ณุ แ ก บ่ คุ ค ล น นั ้ ๆ แ ต ถ่ า้ ค ว า ม คิดเกิดขึ้น เมื่อไม่มีปัญญา หรือมีอวิชชาเกิดขึ้น หรือถูกครอบงาด้วย โลภะหรอื โทสะอยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ความคดิ นนั้ กส็ ง่ ผลใหเ้ ปน็ โทษแกบ่ คุ คล นั้น ๆ เช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้น อารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความคิด ไม่ว่าจะเป็น เวทนา ก็เป็นสภาวธรรม เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ตรงนี้แหละที่เราพึง พิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง ถ้าบุคคลน้อมนาธรรมะคาสอนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาทบทวนให้กับชีวิตตนเองในเวลาที่ เจอผัสสะทางตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ มีผัสสะขึ้นมา มีเวทนาเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทุกขเวทนาหรือสุขเวทนาหรืออุเบกขาเวทนาที่เกิดขึ้นก็ตาม พิจารณาถึงเหตุปัจจัยถึงความเป็นไป มีผัสสะแบบนี้ขึ้นมา...ทาไมความ ทุกข์ถึงเกิดขึ้น ? มีผัสสะแบบนี้ขณะนี้ขึ้นมา-เรื่องเดิม...ทาไมไม่ทุกข์กับ ผสั สะนนั้ ? มผี สั สะขนึ้ มาแลว้ มคี วามทกุ ข.์ ..ทา ไมตอ้ งทกุ ข์ ? หรอื มผี สั สะ เดิมเกิดขึ้นมา-แบบเดียวกัน...ทาไมถึงมีความสุขได้ นอกจากไม่ทุกข์แล้ว มีความสุขอีก ? นี่คือการพิจารณา
พิจารณาแบบนี้ก็เป็นการพิจารณาสภาวธรรม อะไรเป็นเหตุเป็น ปัจจัยให้ความทุกข์หรือไม่ทุกข์เกิดขึ้น อันนี้พูดในลักษณะเป็นอารมณ์ เดียวกัน แต่บางขณะทาให้เกิดทุกข์ บางขณะทาให้จิตวางเฉยได้ แต่บาง ขณะทาไมจิตจึงมีความสุขกับอารมณ์นั้นได้... ความสุขที่เกิดขึ้น เกิด เพราะอารมณ์อันนั้น หรือเกิดเพราะมีสติ สมาธิ มีปัญญา มีความรู้ชัดใน อารมณ์นั้น ๆ รู้ถึงคุณและโทษของอารมณ์นั้น ๆ จึงทาให้เกิดมีความสุข ความสบายใจได้ ไม่ทุกข์กับอารมณ์นั้นได้ ? นี่คือยกตัวอย่างว่าพิจารณา อย่างไร เพราะฉะนั้น การพิจารณาความจริง ถึงอาการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับ


































































































   168   169   170   171   172