Page 255 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 255

ก็ผุดขึ้นมา มีมโนภาพเป็นนิมิตต่าง ๆ เกิดขึ้นมา รู้สึกเหมือนไม่ได้คิดแต่ นิมิตนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?
ถ้ามีสมาธิ จิตมีความสงบ การเกาะเกี่ยวกับอารมณ์ใดอารมณ์ หนึ่งที่อยู่ลึก ๆ หรือที่เป็นอดีตที่ผ่านมาเขาก็ปรากฏขึ้นมาได้ นั่นเป็น สภาวธรรมอย่างหนึ่ง ถามว่า ไม่ว่าจะเป็นนิมิตหรือไม่ว่าจะเป็นสัญญาที่ เกิดขึ้นมา อารมณ์เหล่านั้นกับจิตที่ทาหน้าที่รู้ เขาเป็นส่วนเดียวกันหรือ คนละส่วนกัน เขาเป็นของเที่ยงหรือไม่เที่ยง มีความเปลี่ยนแปลงมีการ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปอยู่เนือง ๆ ไหม หรือเกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่อย่างนั้น ตลอดเวลา ? นี่แหละคือการน้อมเอาธรรมะเข้ามาพิจารณาถึงสัจธรรม ความจริงที่เกิดขึ้นที่เป็นไป ว่าทาไมสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นมาแล้วทาให้เรา เป็นทุกข์ มีความขุ่นมัวเศร้าหมอง เพราะบางครั้งพอมีอารมณ์ต่าง ๆ เกิด ขึ้นมา ก็จะคิดว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ไม่ได้ใส่ใจถึงความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาของแต่ละอารมณ์ที่เกิดขึ้น
ถ้าเราจะละอุปาทานเพื่อคลายความทุกข์ให้กับตนเอง ก็ลอง พจิ ารณาใหช้ ดั เจนแจม่ แจง้ ในลกั ษณะอยา่ งนี้ พจิ ารณาถงึ ความเปน็ ไปของ แต่ละอารมณ์ ตรงนี้แหละที่จะเป็นตัวชาระจิตเราให้คลายอุปาทาน ชาระ จิตให้มีความผ่องใสมีความเบิกบาน ทาจิตของตนให้ขาวรอบให้สะอาด หมดจด ไม่ถูกครอบงาด้วยอวิชชาคือความไม่รู้ หรือที่เรียกว่าโมหะคือ ความหลง หลงเข้าใจผิดคิดว่านั่นเป็นตัวเราเป็นของเรา คิดว่ากายนี้เป็น ของเรา คิดว่าเวทนานี้เป็นเรา เป็นของเรา เป็นของเที่ยง คิดว่าสัญญานี้ เป็นของเรา เป็นของเที่ยง เป็นอัตตา คิดว่าแม้แต่ตัวจิตที่ทาหน้าที่รู้หรือ ตัววิญญาณเองเป็นเรา
251


































































































   253   254   255   256   257