Page 293 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 293
สิ้นเชิงนั่นเอง
วนั นเี้ ปน็ วนั ออกพรรษา ตามปกตเิ รากม็ าฟงั ธรรมปฏบิ ตั ธิ รรมกนั ตามกาล เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการนาธรรมะไปใช้กับชีวิตเราต่อไป เพื่อความเจริญงอกงามในธรรม เพื่อความสุข หรือเพื่อความทุกข์ลดลง ไป ชาระจิตใจของตนให้มีความสงบ มีความอิสระจากอกุศล/จากโลภะ- โทสะ-โมหะที่คอยครอบงาจิตใจของคนเราอยู่เป็นระยะ ๆ ถ้าเราน้อมนา ธรรมะคาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้ามาใส่ตัว น้อมเข้า มาใส่ใจ เอาธรรมะมาเป็นที่พึ่งที่ระลึก และพิจารณาให้เห็นความจริงของ รูปนามขันธ์ ๕ ที่กาลังเป็นไปตลอดเวลาอยู่นี้โดยแยบคาย เชื่อเหลือเกิน ว า่ ไ ม เ่ ก นิ ค ว า ม ส า ม า ร ถ ไ ม เ่ ก นิ ป ญั ญ า ข อ ง เ ร า ท จี ่ ะ เ ข า้ ใ จ ใ น ธ ร ร ม ค า ส อ น ข อ ง องคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ได้ ใครกต็ ามทมี่ คี วามสนใจอยากศกึ ษา พิจารณาธรรมะก็สามารถเข้าใจได้เห็นได้ด้วยตัวเองเช่นเดียวกัน
เพราะธรรมะของพระพทุ ธเจา้ นนั้ เปน็ สจั ธรรมเกดิ ขนึ้ กบั บคุ คลอยู่ ตลอดเวลา ไมว่ า่ จะเปน็ ลมหายใจเขา้ -ออก เวทนาทางกาย เจบ็ -ปวด-เมอื่ ย- ชา-คันที่แสดงความเปลี่ยนแปลงมีการเกิดดับอยู่ ความทุกข์ใจ-ความ สุขใจ-ความสบายใจก็ปรากฏเกิดขึ้นมา เดี๋ยวเกิดขึ้นเดี๋ยวก็ดับไป มีแล้ว หมดไป มีแล้วหายไปตลอดเวลา ประกาศความจริงของตนอยู่เนือง ๆ แม้แต่ตัวจิต ตัวสัญญา ตัวสังขารการปรุงแต่งก็ทาหน้าที่ของตนเป็นปกติ อยู่อย่างนั้น เหลือแต่ว่าใครจะสนใจที่จะศึกษาถึงธรรมชาติของจิตของ ตนเอง เวทนาที่เกิดกับตน ลมหายใจที่ตนหายใจเข้า-ออกอยู่นี่แหละว่ามี ความเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างไร ถ้าพิจารณาถึงกฎไตรลักษณ์อย่างนี้ก็ สามารถทาให้สติ-สมาธิ-ปัญญาแก่กล้าขึ้นได้ ยิ่งปัญญาแก่กล้าขึ้น ก็จะ เห็นชัด เข้าใจ และจิตก็จะคลายจากอุปาทานได้เช่นเดียวกัน
289
