Page 18 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การน้อมพลังบุญเพื่อการอธิฐานจิต
P. 18

824
แล้วทาให้จิตเรามีพลังมากขึ้น พลังจิตตรงนี้จะเป็นตัวบอกว่าเราสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามาให้ ผ่านพ้นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นวิบากแบบไหนก็ตาม เมื่อเรามีความเช่ือมั่นมีความตั้งมั่นในความดี เพราะ พลานุภาพแห่งพระพุทธเจ้านั้น คือพลังแห่งความเป็นมหากุศล เป็นพลังความดีที่ยิ่งใหญ่สุด
พระพุทธเจ้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พอเราคลอนแคลนไม่มั่นใจ สมาธิเรา จติ เราไมต่ งั้ มนั่ ตวั เราเองนนั่ แหละเปน็ ตวั ทา ใหค้ า อธษิ ฐานนนั้ ไมส่ ง่ ผล และเพราะความไมม่ นั่ คงในอารมณ์ นแี่ หละ สมาธเิ ราไมด่ ี เวลาเราทา อะไรในชวี ติ ประจา วนั กจ็ ะทา แบบทา บา้ งไมท่ า บา้ ง เดยี๋ วทา เดยี๋ วไมท่ า เปน็ ความไม่ตั้งมั่น ไม่มั่นคงในกิจการงานที่ต้องทา แล้วถ้าไม่มั่นคงในกิจการงานที่ต้องทา ถามว่า ความสาเร็จ จะเกดิขนึ้ไดอ้ยา่งไร?ตรงนแี้หละถา้เรายอ้นพจิารณาดวูา่สงิ่ไหนทเี่ราเคยทาแลว้สมหวงัเรามกัจะทาดว้ย ความจริงจัง จริงใจ ทุ่มเทให้กับสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ และมีความเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้ เกิดขึ้นได้
และการอธิษฐานจิตตรงนี้แหละที่เราอาจจะเคยได้ยินว่า แม้แต่หนังสือฝรั่งที่เราแปลมา ความลับ ของโลก ความลับของชีวิต หรือเดอะซีเคร็ต (The Secret) ที่เราอ่านกัน ขายดีที่สุด ก็คือพูดถึงการ อธิษฐานจิตของบุคคลต่าง ๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับศาสนาใด แต่บุคคลเหล่านั้นส่วนใหญ่จะมีเป้าหมาย มีการตั้ง จิตอธิษฐานอย่างแน่วแน่ มีความหนักแน่นมั่นคงในความปรารถนาของตนเอง หรือที่เรียกว่ามีอุดมคติ มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะทาอะไร แล้วก็มีความเพียรขวนขวาย(ทาในสิ่งนั้น) และเขากล่าวไว้ว่า คาอธิษฐาน นั้น ถ้าเราอธิษฐานด้วยความเชื่อมั่น จะมีสิ่งที่เรียกว่าปาฏิหาริย์ มีอานิสงส์เกิดขึ้นได้ เราลองดู
จรงิ ๆ แลว้ การอธษิ ฐานจติ สง่ ผลไหม ? ยอ้ นกลบั ไปทอี่ าจารยย์ กตวั อยา่ งเรอื่ งของพระพทุ ธเจา้ และ พระอรยิ สาวกองคต์ า่ ง ๆ กต็ งั้ จติ อธษิ ฐานเพอื่ เจรญิ รอยตามองคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทงั้ นนั้ เลย ทกุ ๆ องคก์ ต็ งั้ จติ อธษิ ฐานเพอื่ การบรรลธุ รรม แลว้ วนั หนงึ่ กส็ มหวงั ในสงิ่ ทปี่ รารถนา เพราะฉะนนั้ การอธษิ ฐานจติ จงึ เปน็ สงิ่ สา คญั ไมใ่ ชเ่ รอื่ งงมงาย แตเ่ ปน็ เรอื่ งจรงิ ทเี่ ราควรจะมเี ปา้ หมายใหก้ บั ตนเอง มเี จตนาทชี่ ดั เจน แลว้ เหตปุ จั จยั ตา่ ง ๆ มนั จะคอยผลกั ดนั เรา เดยี๋ วจะมเี รอื่ งนนั้ เรอื่ งนเี้ ขา้ มาคอยบบี ใหเ้ ราเดนิ ทางไปสทู่ างทเี่ ราปรารถนา บางคนพอมีตัวมุ่งมีความปรารถนาที่จะไปสู่มรรคผลนิพพาน สิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มปรับตัวเองไปสู่ทิศทางนั้น
บางคนเจอวบิ ากทางโลกหนกั หนาสาหสั กห็ นั หนา้ เขา้ หาธรรมะ แตพ่ อหนั หนา้ เขา้ หาธรรมะ กลายเปน็ ทางเดนิ ทสี่ ะดวก ทางโลกเหมอื นเจออปุ สรรคใหญ่ แตท่ างธรรมพอปฏบิ ตั แิ ลว้ เดนิ ทางไปไดง้ า่ ย เขา้ ใจธรรมะ มีความผ่อนคลาย ความทุกข์ทางโลกที่บอกว่าเป็นอุปสรรคเป็นปัญหา พอมองย้อนกลับไปรู้สึกว่านั่นเป็น ปัจจัยหนึ่งแค่นั้นเอง ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่ถึงเวลาแล้วเป็นเหตุปัจจัยให้ตนเองได้ทาตามความ ปรารถนาตามทตี่ งั้ จติ อธษิ ฐานเอาไว้ (เพอื่ )สงิ่ ทเี่ รยี กไดว้ า่ ดที สี่ ดุ ในชวี ติ ของเรา เพราะฉะนนั้ ลองพจิ ารณาดดู ี ๆ คาอธิษฐานของเรานั้นส่งผล ลองดู เมื่อมีความเชื่อมั่นในคาอธิษฐานของตนเอง ผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ?
และถา้ จะใหด้ นี ะ เราอธษิ ฐานจติ ขออานภุ าพแหง่ พระพทุ ธเจา้ ขอใหข้ า้ พเจา้ จงเปน็ ผมู้ สี ตปิ ญั ญา... ว่าไป แล้วการอธิษฐานจิต อย่างที่บอกแล้วว่าไม่ต้องอธิษฐานอย่างเดียวก็ได้ หลายอย่างก็ได้ ทางโลกด้วย ทางธรรมด้วย ขอให้เป็นผู้มีปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม ก็ว่ากันไป จะได้ฉลาดทั้งสองด้าน ฉลาดแต่ ทางธรรม ไปทางโลกมืดแปดด้าน อันนั้นก็อย่าว่ากันนะ บางทีอาจารย์ออกไปข้างนอก อาจารย์ก็ไม่รู้หรอก


































































































   16   17   18   19   20