Page 88 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาหัวข้อธรรม
P. 88
948
อยทู่ า่ มกลางความสงบ เกดิ อยใู่ นทโี่ ลง่ ๆ เกดิ อยใู่ นทเี่ บา ๆ และเสยี งทไี่ ดย้ นิ กบั จติ ของเราเปน็ คนละสว่ นกนั นนั่ คอื การพจิ ารณาถงึ สจั ธรรมอยา่ งหนงึ่ วา่ เสยี งกเ็ ปน็ เสยี งนนั่ แหละ ไมว่ า่ จะเสยี งอะไรกเ็ ปน็ เสยี งอยา่ งหนงึ่ และเสียงที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ตั้งอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราสังเกตดี ๆ แม้แต่เสียงที่เกิดขึ้นคาเดียว ในคาเดียวนั้นมี อาการเกิดดับหลาย ๆ ขณะอยู่ในนั้น แล้วเราเห็นได้อย่างไรว่าในคาเดียวมีอาการเกิดดับหลาย ๆ ขณะ ?
นั่นคือจากกาลังของสติ สมาธิ และปัญญา คือการใส่ใจเข้าไปสังเกตกาหนดรู้ ถ้ากาหนดรู้แบบนี้ และเห็นว่าเสียงเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปแล้ว จิตใจเป็นอย่างไร และจิตใจนิ่งแค่ไหน ตั้งมั่นแค่ไหน ตื่นตัว แค่ไหน ถึงสามารถเห็นอาการเกิดดับนั้นได้ นั่นเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกันในตัว เพราะจิตตื่นตัวขึ้น จึง เหน็ อาการเกดิ ดบั ของอารมณน์ นั้ ชดั เจน เพราะการใสใ่ จเขา้ ไปกา หนดรอู้ ารมณป์ จั จบุ นั อยา่ งชดั เจนนนั่ แหละ จึงทาให้สติมีความตื่นตัว มีสมาธิตั้งมั่น ปัญญาคมชัด ส่งผลให้สภาพจิตเรามีความผ่องใสขึ้น สะอาดขึ้น แล้วเราก็จะเห็นด้วยว่าสภาพจิตดีขึ้นต่างไปจากเดิมอย่างไร
เพราะฉะนั้น โอกาสดีในวันนี้ เป็นวันออกพรรษาและเป็นวันสาคัญที่พระบาทสมเด็จพระบรม นาถบพิตรรัชกาลที่ ๙ สวรรคต เรามาน้อมระลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ การปฏิบัติธรรม ของเราทาให้จิตมีความผ่องใสมีความสะอาด ด้วยปัญญาที่พิจารณาอยู่นี้จะทาให้จิตเราเป็นมหากุศลที่ สามารถนอ้ มถวายเปน็ พระราชกศุ ลทจี่ ะสง่ ผลไดจ้ รงิ นอ้ มดว้ ยใจของเราจรงิ ๆ ขอใหเ้ ราตงั้ ใจและพจิ ารณา สภาวธรรมให้ชัดอีกนิดหนึ่งก่อนที่เราจะแผ่เมตตากัน...
...ก่อนจะแผ่เมตตา ขอให้เราน้อมระลึกนึกถึงบุญกุศลความดีต่าง ๆ ที่เราได้ทา น้อมเข้ามาใส่ใจ ของเราให้เต็ม ทาให้ใจของเราเต็มไปด้วยพลังแห่งบุญ เต็มไปด้วยพลังความสุข เต็มไปด้วยความอิ่มใจ นั่นคือจิตเราแน่นไปด้วยพลัง เมื่อรู้สึกว่าจิตเราเต็มไปด้วยพลังแห่งบุญแล้วขอให้อธิษฐานจิตให้กับตนเอง ในขณะที่อธิษฐานจิตก็ให้น้อมเข้ามาใส่ตัว ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้ จงมาเป็นตบะ เป็นพลว เป็นปัจจัย ให้ ข้าพเจ้าจงเป็นผู้มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา มีดวงตาเห็นธรรม และเข้าถึงธรรมโดยฉับพลัน
จากนนั้ ใหแ้ ผจ่ ติ ทเี่ ปน็ บญุ อนั นใี้ หก้ วา้ งออกไปอกี ใหก้ วา้ งออกไปไมม่ ขี อบเขตไมม่ ปี ระมาณ ใหก้ วา้ ง เทา่ จกั รวาล แลว้ ตงั้ จติ อธษิ ฐานแผบ่ ญุ กศุ ลอนั นใี้ หก้ บั ผมู้ พี ระคณุ ทงั้ หลาย ไมว่ า่ จะเปน็ พอ่ แม่ ครบู าอาจารย์ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนร่วมโลกเกิดแก่เจ็บตาย เทวดาทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้และ ที่อื่น ๆ จงรับรู้ถึงบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้แผ่ไปแล้วนี้ เมื่อรับรู้แล้วก็ขอให้อนุโมทนา เมื่ออนุโมทนาแล้ว ถ้า มีทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้ามีสุขก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้ามีเวรมีภัยต่อกันก็ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและ กัน เพื่อความเจริญความผาสุกในชีวิตตลอดไป
และให้เราน้อมบุญนี้ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ โดยพร้อมเพรียงกัน...
และสุดท้ายนี้ก็ขออานิสงส์กุศลผลบุญต่าง ๆ ที่เราได้ทามา ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนา ที่ทามาและกาลังทาอยู่นี้จงมาเป็นตบะ เป็นพลว เป็นปัจจัย ให้เราทั้งหลายจงเป็นผู้มี ความเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใดก็ขอให้สาเร็จสมความปรารถนาทุก ๆ ประการ ตราบเท่า เข้าสู่มรรค ผล นิพพาน ด้วยกันทุกคนเทอญ