Page 97 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาหัวข้อธรรม
P. 97
957
ที่เห็นอาการพระไตรลักษณ์ การเกิดดับแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา อารมณ์อาการความคิดเป็นอารมณ์ ปกติธรรมดา แต่การที่จะเห็นอาการเกิดดับชัดเจน ต้องมีสติ สมาธิ ปัญญาแก่กล้าขึ้น แก่กล้าพอสมควร ถึงจะเห็นอาการเกิดดับของตัวความคิดได้
เพราะฉะนั้น เมื่อมีความคิดเกิดขึ้นมา จึงควรทาใจให้สบาย ทาความพอใจ ที่จะกาหนดรู้ถึงอาการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปของตัวความคิด ให้ทาความรู้สึกว่า ความคิดก็เป็นสภาวธรรมอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น เป็น สภาวธรรมตรงไหน ก็เป็นสภาวธรรม เขาเรียกเป็นอาการทางจิต เป็นการดูจิตในจิต พิจารณาอาการที่เกิด ขึ้น อารมณ์ทางจิตที่เกิดขึ้น ว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดดับอย่างไร แม้แต่จิตที่เบา ว่าง เรายังกาหนดรู้ ถึง การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ความเปลี่ยนไปได้ แล้วความคิดทาไมถึงไม่ใส่ใจ หรือทาไมถึงต้องไม่ใส่ใจ ไม่ เอามาเป็นอารมณ์กรรมฐานได้ เพราะความคิดยังหยาบกว่าจิตที่ว่าง จิตที่เบาด้วยซ้า นี่อย่างหนึ่ง
ถา้ เราเขา้ ใจอยา่ งนแี้ ลว้ เวลาเจรญิ กรรมฐาน เวลาเดนิ จงกรม นงั่ สมาธิ เมอื่ มคี วามคดิ เกดิ ขนึ้ มา ไม่ ต้องไปหาอาการอื่น ให้ยืนนิ่ง แล้วกาหนดรู้อาการเกิดดับของความคิด ว่าเกิดดับอย่างไรต่อไป ในขณะที่ เดิน ขณะที่นั่ง จากที่เคยกาหนดรู้อาการของลมหายใจที่เปลี่ยนไป เกิดดับ ตามรู้ได้ชัด อยู่ ๆ มีความคิด แทรกเข้ามา ๆ เป็นระยะ ๆ หรือเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาการเกิดดับของลมหายใจไม่มีแล้ว มีแต่ความคิด อย่างเดียว นั่นหมายถึงว่า อารมณ์ปัจจุบัน เปลี่ยนมาเป็นความคิดแล้ว
แค่ทาจิตให้ว่าง และพอใจที่จะกาหนดรู้ ถึงอาการเกิดดับของตัวความคิดเท่านั้นเอง ก็จะทาให้ สภาวธรรมเดินหน้าต่อไปได้ ไม่หยุดชะงัก ไม่หยุดอยู่กับที่ เพราะสภาวธรรมที่เกิดขึ้นมา ก็เพื่อที่เราจะได้ พิจารณา พัฒนาสติสมาธิปัญญา ให้แก่กล้าขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง อันนี้อย่างหนึ่ง
อกี อยา่ งหนงึ่ กค็ อื วา่ ดธู รรมในธรรม สภาวธรรมของอารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ทเี่ สมอกนั ทงั้ หมด ทงั้ มวล ไม่ ว่าจะเป็นรูป เสียง กลิ่น รส ธรรมารมณ์ ที่เกิดกับใจ ไม่ว่าจะเป็นอาการรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เกิดขึ้นมา ก็ล้วนเป็นสภาวธรรม คือแสดงอาการพระไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ทุก ๆ ขณะ เกิด ขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสติ สมาธิ ปัญญาของผู้ปฏิบัติ ว่ามีความแก่กล้าแค่ไหน จึงจะเห็น ลักษณะอาการเกิดดับ เปลี่ยนไปต่างไปอย่างไร เห็นถึงสัจธรรมตรงนั้น มีความชัดเจนแจ่มแจ้งอย่างไร นี่ คือหลัก อารมณ์หลัก ๆ ที่จะเกิดขึ้น ในการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
เพราะฉะนั้น การที่เรามาปฏิบัติธรรม ก็เพื่อที่จะชาระจิตใจ ชาระอกุศล ชาระอวิชชาที่เคยตกค้าง ที่ มีอยู่ ให้มีความชัดเจน มีความแจ่มแจ้ง ทาจิตใจของเราให้อิสระมากขึ้น คลายจากอุปาทาน และเพื่อที่สุด คือการหลุดพ้น คือการดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง เพราะอะไร การที่เรารู้อาการพระไตรลักษณ์แบบนี้ เราจะเห็น อีกอย่างหนึ่ง คือเรื่องของจิตที่ทาหน้าที่รับรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้น รู้สภาวธรรมต่าง ๆ จิตที่ทาหน้าที่รู้ ที่เรียก ว่าวิญญาณขันธ์ วิญญาณรู้ อาศัยอาการทาหน้าที่รับรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็คือตัววิญญาณขันธ์ วิญญาณจิตอันนี้แหละ ทาหน้าที่รับรู้ และตัววิญญาณขันธ์ หรือตัวจิตดวงนี้ ก็จะมีการทาหน้าที่รับรู้ แล้ว ก็ดับไป เกิดขึ้นมาทาหน้าที่รับรู้ ดับไป เพราะอะไร เพราะเป็นจิตดวงหนึ่ง เป็นวิถีจิตดวงหนึ่ง ที่เกิดขึ้นมา ทาหน้าที่รับรู้ แล้วดับไป