Page 130 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 130
438
แลว้ กา หนด...พอจติ ตงั้ มนั่ ขนึ้ อารมณน์ นั้ ดบั อยา่ งไร พอดบั แลว้ มเี ศษ หรอื ไมม่ เี ศษคา้ งอยใู่ นใจ อนั นตี้ อ้ ง กลับมาทบทวน ดับแล้วเกลี้ยงไป สงบไป ก็ให้รู้ชัดตามนั้น นั่น...วิธีการพิจารณาอาการเกิดดับของอารมณ์
เพราะฉะนั้น ความต่อเนื่องนี่นะ การกาหนดอารมณ์ต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสาคัญนะ ปฏิบัติแล้ว เอ่อ! จริง ๆ แล้ว อาจารย์ไม่ต้องเทศน์เยอะเนอะ ปฏิบัติเยอะ ๆ ดีกว่า เทศน์เยอะ ๆ แล้วฟังทั้งวัน แล้วก็...จน ไม่มีอะไรจะพูดให้ฟังแล้วนะ จริง ๆ แล้ว สภาวะ หลัก ๆ เลยนี่นะ มีไม่เยอะหรอก แต่รายละเอียดบาง อย่างที่อาจารย์พูดนี่นะ ที่อาจารย์พูดรายละเอียดบางอย่างให้เรารู้ว่า สภาวธรรมที่เราปฏิบัติที่เกิดข้ึนมา นี่นะ ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็เกิด ทุกอย่างมีเหตุมีผล มันเป็นเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเกิดแบบลอย ๆ แค่ความ เชื่อ เหมือนที่เราคิดเอาเองไหม อันนี้คือตัวตัดปัญหา
ที่บอกว่าเราไม่ได้คิดเอาเองนะ แต่สภาวะเป็นแบบนี้จริง ๆ มันพิสูจน์ได้ คนแต่ละคน บางครั้ง เอ่อ! เขาคิดว่า เขาเป็นคนที่...เป็นนักวิทยาศาสตร์ เลยชอบอะไร ชอบอยากรู้อะไรต้องมีเหตุมีผล เอ่อ! ก็ เลยบอกเขา...ใช่ เรามักจะเอาวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสตร์มาปนกัน ศาสตร์ของรูปกับศาสตร์ของจิตเอามา ปนกัน โดยที่ไม่รู้ว่า ศาสตร์นี้ต้องใช้แบบพิจารณาอย่างไร พิสูจน์แบบไหน ศาสตร์นั้นพิสูจน์อย่างไร
ถ้าถาม...ความทุกข์จริง ๆ นี่นะ ก็เลยถามเขาว่า ความทุกข์นี่นะพิสูจน์ได้ไหม...ได้ เกิดเฉพาะเรา หรอื เปลา่ หรอื ทกุ คนในโลกนรี้ จู้ กั ความทกุ ขห์ มด เออ่ !...ทกุ คน แลว้ ไมเ่ ปน็ วทิ ยาศาสตรต์ รงไหน กลายเปน็ ว่า ธรรมะพระพุทธเจ้าตรัสถึงสัจธรรมตรงนี้ เกิดอยู่ที่ไหน มุมไหนของโลก เวลาทุกข์ขึ้นมา มีหน้าตาแบบ เดียวกัน ไม่มีรอยยิ้มหรอกนะ พอทุกข์ขึ้นมา น้าตาไหลแบบเดียวกันหมดเลย มันเป็นภาษาสากลทางจิต กับทางกายของเรา เป็นปฏิกิริยาที่แสดงออกมา นั่นคือลักษณะของความทุกข์นะ นี่คือลักษณะของความ ทุกข์ นี่คือสัจธรรม
ลองไปถามว่าข้อมูลวิจัย ต้องใช้กี่คนถึงจะเชื่อถือได้ นี่ทุกคนในโลกเป็นหมดเลย...แล้วไม่เชื่อ ก็ แล้วไปนะ อ๋อ! กลายเป็นว่าสภาวธรรมสัจธรรม แล้วพระพุทธเจ้าสอนให้เราตัดทุกข์ ออกจากความทุกข์ แบบนี้ เป็นธรรมดาของโลก แต่วิธีที่จะออกจากทุกข์ คือการพิจารณาถึงความเป็นจริง ความเป็นจริงคือ สัจธรรมความเป็นจริง อาการเกิดดับของรูปนามที่เราปฏิบัติอยู่ ดู...แยกรูปนาม แยกกายแยกจิต ที่ปฏิบัติ อยู่ คิดดูว่าเป็นศาสตร์ที่ทันสมัย ยุคสมัยไหนใครใช้ก็ได้ผล ยุคสมัยไหนก็ตาม...ใครใช้ นามาใช้ ได้ผล ทุกคน
เป็นทุกข์...ทาได้ ใช้แบบนั้นความทุกข์ก็ดับไป พิสูจน์ได้ ถามว่าถ้าพิสูจน์ได้นี่นะ เป็นหลัก วิทยาศาสตร์ไหม แต่มันคือพุทธศาสตร์ คาว่าพุทธศาสตร์ ศาสตร์แห่งปัญญา เป็นศาสตร์แห่งปัญญา คือ เป็นผู้รู้ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ปฏิบัติแล้วรู้ได้ เห็นได้ พิสูจน์ได้ แล้วไม่ซับซ้อนด้วย ไม่ต้องไปดูไกล เพียงแต่ลึกซึ้ง นิดหนึ่งนะ เป็นอะไรที่เราพิสูจน์ได้ ความเย็น ความร้อน อ่อน แข็ง เคร่ง ตึง หนัก เบา พระพุทธเจ้าตรัส ไหม ตรสั ไวห้ มด ไมไ่ ดต้ รสั วา่ จติ อยา่ งเดยี ว แตเ่ รอื่ งรา่ งกาย จติ กบั กายเขาแยกกนั ตรงไหน เกดิ ดบั อยา่ งไร ตรงนั้นแหละ เหตุแห่งทุกข์ แล้วอยู่ตรงไหน พระพุทธเจ้าตรัสไว้