Page 98 - รายงานประจำปี 2567 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การยาสูบแห่งประเทศไทย ซึ่งจดทะเบียนแล้ว
P. 98

ทําไมหุ้นโลกควรเป็น “พอร์ตการลงทุนหลัก” ในระยะยาว
โดย : คุณอติคุณ คณาสิริวัฒนะ Senior Associate, ฝ่ายจัดสรรสินทรัพย์การลงทุน, บลจ.ไทยพาณิชย์ จํากัด
ปัจจัยลบที่รุมเร้าตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันมีทั้งปัจจัยเชิงโครงสร้างและปัจจัยเฉพาะตัวของตลาด เริ่มจากปัญหาเชิง โครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ทําให้ศักยภาพการเติบโตของประเทศลดลง เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้อย่างมี ประสิทธิภาพ อีกทั้งแนวโน้มกําไรของบริษัทจดทะเบียนไทยยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับไปสูงกว่าระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนถูกกระทบเพิ่มเติมจากประเด็นลบที่เกิดขึ้นกับหุ้นขนาดใหญ่และแรงขายต่อเนื่องจากกองทุน LTF แม้ว่าภาครัฐจะพยายามออกมาตรการพยุงตลาด แต่ sentiment เชิงลบจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะมาตรการภาษีตอบโต้จาก ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงและแตะระดับต่ําสุดที่ต่ํากว่า 1,200 จุด แม้ว่าตลาดหุ้น ไทยจะมีมูลค่าที่ถูกลงมากเมื่อเทียบกับอดีต แต่ความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงและการที่เศรษฐกิจไทยยังขาด New S-Curve อาจทําให้ตลาดหุ้นไทยไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศเท่าที่ควร
การลงทุนในหุ้นทั่วโลกช่วยลดการพึ่งพาเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงอย่างเดียว หากเศรษฐกิจของประเทศ หนึ่งชะลอตัว ภูมิภาคอื่นอาจยังสามารถเติบโตได้ดี เช่น ปัจจุบันเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และแนวโน้มกําไรของ บริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในระดับแข็งแกร่ง รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ แสดงให้ เห็นว่าผลกําไรออกมาดีกว่าคาดการณ์เฉลี่ย 8.7% และกว่า 80% ของบริษัทมีผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของ นักวิเคราะห์ ซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นไทยที่ผลกําไรออกมาต่ํากว่าคาดการณ์
ตลาดหุ้นโลกยังเปิดโอกาสให้เข้าถึงบริษัทชั้นนําในอุตสาหกรรมที่กําลังเติบโต ซึ่งไม่มีในตลาดหุ้นไทย ตัวอย่างเช่น ภาค เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรม AI และ Semiconductor ซึ่งเป็น Megatrend ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ในช่วงที่ผ่านมา เทคโนโลยี AI มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เช่น การเปิดตัว DeepSeek ซึ่งเป็น Generative AI จากจีนที่มี ประสิทธิภาพสูง สามารถประมวลผลได้ฉลาดใกล้เคียงหรือดีกว่า ChatGPT แต่ใช้ต้นทุนต่ํากว่าหลายเท่าและรองรับการใช้งานบน ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพต่ําได้ดี การพัฒนาเช่นนี้ช่วยเร่งให้ต้นทุน AI ลดลงเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทําให้เกิดการใช้งานอย่าง แพร่หลายและเร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทที่เป็นผู้นําในอุตสาหกรรม AI เช่น กลุ่ม Software และ Communication Services ตรงกันข้าม ประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนา Generative AI ของตนเอง เนื่องจากข้อจํากัดด้านทรัพยากรและเทคโนโลยี
นอกจากกลุ่มเทคโนโลยีแล้ว อุตสาหกรรมการแพทย์และเภสัชกรรม ก็เป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่น่าจับตามอง เนื่องจาก สังคมผู้สูงอายุกําลังกลายเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลก ทําให้ความต้องการยาและเวชภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอุตสาหกรรมยา ในไทยจะยังมีโอกาสเติบโต แต่ส่วนใหญ่เป็นการผลิตยาสามัญ (Generic Drug) เพื่อใช้ในประเทศถึงกว่า 90% ขณะที่อุตสาหกรรม ยาระดับโลกเริ่มนํา AI มาใช้เพื่อพัฒนายาที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ยารักษาโรคมะเร็งและยาที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน แม้ อุตสาหกรรมนี้อาจไม่ได้มีความหวือหวาเท่ากับภาคเทคโนโลยี แต่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีความต้องการจากทั่วโลกและมี แนวโน้มเติบโตระยะยาว
96 กองทุุนสำํารองเลี้้ยงชี้พ กรยสำูบแห่่งประเทุศไทุย ซึ่่งจดทุะเบ้ยนแลี้้ว




























































































   96   97   98   99   100