Page 238 - Channels and Distribution Management
P. 238
228 การจััดการช่่องทางการจััดจัําหน่่ายและการกระจัายสิิน่ค้้า 228
จากภาพที่ 10.9 แสดงหลักการ 3R ดังนี้
- R ตัวที่ 1 คือ Reduce หมายถึง การลดการใช้ ซึ่งสามารถทําได้โดยการวางแผนการ
ใช้ทรัพยากรต่างๆ ในโซ่อุปทานอย่างคุ้มค่า เช่น การวางแผนการผลิตเพื่อลดของเสีย หรือเศษเหลือ ของวตั ถุดิบจากกระบวนการผลิต การลดการใช้พลังงาน การลดการใช้น้ําในกระบวนการผลิต หรือ การลดการใช้น้ํามันเชื้อเพลิงในกระบวนการขนส่งสินค้า เป็นต้น
- R ตัวที่ 2 คือ Reuse หมายถึง การใช้ซ้ํา ได้แก่ กระบวนในการรวบรวมและนําสินค้า สิ้นส่วนประกอบ วัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เช่น การใช้ภาชนะบรรจุซ้ํา ใช้อุปกรณ์สําหรับการขนย้ายซ้ํา การนําชิ้นส่วนส่วนอิเล็กทรอนิกส์มาถอดประกอบและ
ใช้ซ้ํา เป็นต้น
- R ตัวที่ 3 คือ Recycle ซึ่งหมายถึง การนํากลับมาใช้ใหม่ ประกอบด้วย กระบวนการ
ในการรวบรวมและนําสินค้า ตลอดจนวัสดุต่างๆ ที่ผ่านการใช้งานแล้ว กลับมาผ่านกระบวนการขึ้นรูป หรือกระบวนการผลิตใหม่ เพื่อให้สามารถนํากลับมาใช้งานได้อีก เช่น การนํากระดาษมาผ่าน กระบวนการขึ้นรูปกระดาษเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์ การนําบรรจุภัณฑ์พลาสติกมาหลอมและขึ้นรูป เป็นสินค้าพลาสติกประเภทต่างๆ เพื่อนํามาใช้อีกครั้งนั่นเอง
การวัดผลและประเมินผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม
ในการวัดและประเมินผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของกิจกรรมต่างๆ ในโซ่อุปทาน โดยทั่วไป จะใช้ตัวชี้วัด ซึ่งเป็นที่นิยมกัน คือ ปริมาณ Carbon Footprint หรือรอยเท้าคาร์บอนของ กิจกรรมนั้นๆ
ดังนั้น ในหัวข้อนี้ จึงจะกล่าวถึงความหมาย และรายละเอียดของคําว่า "รอยเท้า คาร์บอน" ดังนี้
- รอยเท้าคาร์บอน หรือ Carbon Footprint หมายถึง ปริมาณรวมของก๊าซคาร์บอนได ออกไซท์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์หรือบริการดลอดวัฏจักรชีวิตของ ผลิตภัณฑ์
- ฉลากรอยเท้าคาร์บอนนั้น ประกอบด้วย ปริมาณก๊าซเรือนกระจุกที่ผลิตขึ้นจาก กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การขนส่ง การผลิต การประกอบชิ้นส่วน ตลอดจนการจัดจําหน่าย การใช้ งานและการกําจัด
- และแสดงผลในเชิงปริมาณเทียบเท่ากับศักยภาพการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพ อากาศของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นกิโลกรัม นั้นคือ มีหน่วยเป็น Kg ของ CO2 Equivalent (อ่าน ว่า กิโลกรัมเทียบเท่าของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) นั่นเอง ดังภาพที่ 10.10