Page 21 - การสำรวจภาพถ่าย Photogrammetry
P. 21

 xv
ชื่อรูป
รูปที่ 5-9
รูปที่ 5-10 รูปที่ 5-11
รูปที่ 5-12
รูปที่ 5-13 รูปที่ 5-14
รูปที่ 5-15
รูปที่ 5-16
รูปที่ 5-17
รูปที่ 5-18 รูปที่ 5-19
รูปที่ 5-20 รูปที่ 5-21 รูปที่ 5-22
หน&า
สารบัญรูป (ต*อ)
แว8นชัทเทิล (Shuttle Glasses) และอุปกรณ*รับส8งสัญณาณสามมิติ 140 (ดัดแปลงจาก Ultimate3dheaven, 2016)
ภาพคู8ซ3อนสามมิติที่จัดไว3อย8างถูกต3องสําหรับการมองสามมิติ (ดัดแปลงจาก Nash, 1972) 141 ความเหลื่อมตามแกน Y ที่เกิดจากการจัดวางภาพถ8ายทางอากาศไม8ถูกต3องที่แสดงแนวเชื่อมต8อ 141 จุด O1 O2’ O1’ และ O2 ไม8อยู8ในแนวเดียวกันกับที่ควรจะเป£นจึงเกิดความเหลื่อมตามแกน Y
เป£นระยะ Pyc และ Pyd สําหรับจุด c และ d ตามลําดับ (ดัดแปลงจาก วิชา จิวาลัย และ
ปรีชา วงศ*วิทวสั , 2531)
ความเหลื่อมตามแกน Y อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนระดับบินจึงส8งผลต8อมาตราส8วนภาพถ8ายซึ่งสังเกต 142 จากพิจารณาระยะ cd ณ จุด c1 และ d1 ในภาพซ3าย (L) และจุด c2 และ d2 ในภาพขวา (R) ส8งผลให3เกิดเป£นระยะเหลื่อมทางแกน Y ขนาด Pyc และ Pyd สําหรับจุด c และ d ตามลําดับ
(ดัดแปลงจาก วิชา จิวาลัย และ ปรีชา วงศ*วิทวัส, 2531)
ความเหลื่อมตามแกน Y ที่เกิดจากภาพถ8ายเอียงจึงเป£นผลให3รูปสี่เหลี่ยม UVWX ในภาพซ3าย (L) 142 มีการบิดในภาพขวา (R) จนเกิดเป£นความเหลื่อมตามแกน Y เป£นระยะ Pyu และ Pyv ตามลําดับ (ดัดแปลงจาก วิชา จิวาลัย และ ปรีชา วงศ*วิทวัส, 2531) ระยะเหลื่อมอันเกิดจากการเปลี่ยนตําแหน8งมุมมองอันเนื่องจากจากการเคลื่อนที่ของรถยนต*ส8งผลให3 143 เกิดการเลื่อนไปของตําแหน8งต3นไม3และยอดเขา โดยตําแหน8งในรูป (ก) เกิดการเคลื่อนออกไป เมื่อเทียบกับตําแหน8งในรูป (ข) ที่ใช3อ3างอิง (ดัดแปลงจาก Mikhail et al., 2001) ภาพตัดขวางแสดงหลักการของระยะเหลื่อมบนคู8ภาพสามมิติของภาพถ8ายดิ่ง 144 (ดัดแปลงจาก Jensen, 2007)
ภาพตัดขวางแสดงการเกิดระยะเหลื่อม Pm และ Pn ของจุด M และ N หลังจากการนําคู8ภาพสามมิติ 145 ของภาพถ8ายดิ่งมาวางให3จุดเปÇดถ8ายของทั้งสองภาพทับเป£นจุดกัน (ดัดแปลงจาก Jensen, 2007) การวัดระยะเหลื่อมโดยวิธีมองภาพเดี่ยว (Monoscopic Method) ซึ่งได3จากการวดั ค8า d และ D 145 แล3วนํามาคํานวณหาระยะเหลื่อมจาก p = x - x’= D – d (ดัดแปลงจาก Lillesand et al., 2008) ภาพตัดขวางแสดงหลักการของจุดลอย (ดัดแปลงจาก วิชา จิวาลัย และ ปรีชา วงศ*วิทวัส, 2531) 146 การใช3ไม3วัดระยะเหลื่อม (Parallax Bar) วัดบนภาพเพื่อวิเคราะห*หาระยะเหลือ่ ม 147 (ดัดแปลงจาก วิชา จิวาลัย และ ปรีชา วงศ*วิทวัส, 2531)
เรขาคณิตของภาพคู8ซ3อน (ดัดแปลงจาก วิชา จิวาลัย และ ปรชี า วงศ*วิทวัส, 2531) 148 ระยะเหลื่อมของจุดมุขยสําคัญ (ดัดแปลงจาก Wolf et al., 2014) 150 การหาระดับความสูงจากความต8างระยะเหลื่อม (ดัดแปลงจาก วิชา จิวาลัย และ ปรีชา วงศ*วิทวัส, 2531) 152
 ผศ.ดร.ชาติิชาย ไวยสุุระสุิงห์์
xv











































































   19   20   21   22   23