Page 76 - อนุสาร อสท. ปีที่ ๖๐ ฉบับที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๓
P. 76
หากแต่ความเป็นจริงมิได้เป็นเช่นนั้น หมากยังคงมีอยู่ในหลาย ๆ พื้นท่ี ของประเทศ สวนหมากใหญ่ ๆ ระดับเป็นหมื่น ๆ ต้น ยังมีอยู่หลายพื้นที่ เช่น ที่บ้านค่าย จังหวัดระยองแห่งน้ี ท่ีบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี และที่ หมบู่ า้ นเปง่ิ เคลงิ่ และเลตองคุ อา เภออมุ้ ผาง จงั หวดั ตาก เปน็ ตน้ แมส้ วนหมาก จะมีน้อยลง หากแต่การค้าขายหมากระหว่างประเทศก็ยังดารงอยู่ ทว่า ได้หลุดไปแล้วจากการติดตามใส่ใจของภาครัฐ หมากกลายเป็นพืชเศรษฐกิจ ชนิดเดียวท่ีภาครัฐไทยแทบไม่มีสถิติข้อมูลต่าง ๆ ในการซื้อขายระหว่าง ประเทศอยู่ในมือเลย และผู้คนในวงการค้าขายหมากก็ดูเหมือนจะพอใจ ที่ภาครัฐจะอยู่ห่าง ๆ ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมใด ๆ กับวงจรการค้าขายหมาก ทั้งภายในและภายนอกประเทศอีก
เพราะในความเป็นจริง หมากน้ันขายดีขายได้ไม่เคยตีบตันมาตลอด มีเท่าไรหมากก็ขายได้หมด และขายได้จากหน้าบ้าน มีคนมารับซ้ือ ไม่ต้อง ขนไปขาย อาจเป็นเพราะหมากมีประโยชน์หลากหลาย ในทางการแพทย์ หมากเปน็ ยา หรอื เปน็ สว่ นหนง่ึ ของยาสมานแผล ยาแกท้ อ้ งเสยี เปน็ สว่ นหนงึ่ ของยาสีฟัน และยังมีฤทธ์ิต่อจิตประสาท ไต้หวันใช้ลูกหมากอ่อนเป็น ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ กระตุ้นความตื่นตัวของพลังทางเพศ ในอุตสาหกรรม ฟอกย้อม สารบางชนิดในหมากช่วยทาให้การย้อมสีมีประสิทธิภาพ ในเรื่อง การฟอกหนัง หมากช่วยฟอกหนังหยาบ ๆ ให้อ่อนนุ่ม
ในวันน้ีที่โลกจะใช้สารเคมีให้น้อยลง หมากก็จะกลับมีคุณค่ามากย่ิงข้ึน ฟุตบอลโลกคร้ังใหม่นี้ท่ีญี่ปุ่นและจีนจะเป็นเจ้าภาพ บริษัทจีนที่ได้รับมอบ อานาจจากฟีฟ่าให้ผลิตลูกฟุตบอลหลายพันลูกในการแข่งขัน ทาการตลาด และการประชาสัมพันธ์ด้วยการไม่ใช้สารเคมีในการทาสีลูกฟุตบอล ยังมา ตั้งล้งรับซื้อหมากในประเทศไทยไปแล้วเป็นจา นวนมาก
และเหมือนเพิ่งจะหนึ่งปีที่ผ่านมาที่มีการนากาบหมากมาจัดทาเป็น จานกาบหมาก ภาชนะอาหารลดโลกร้อน ทดแทนการใช้โฟมและพลาสติก ทย่ี อ่ ยสลายในธรรมชาตไิ ดย้ าก หลงั จากมกี ารนา ใบไมป้ ระเภทตา่ ง ๆ มาทดลอง ผลิต แต่ก็ไม่มีใบไม้ชนิดใดที่จะผลิตได้ง่าย มีความคงทนและสวยงามได้ เท่ากับกาบหมาก จนกาบหมากได้รับการกล่าวขวัญยกย่องว่าเป็นราชา แหง่ จานใบไม้ จากจดุ เรมิ่ ตน้ นนั้ ทเี่ ครอ่ื งจกั รในการจดั ทา กาบหมากเปน็ การ นา เขา้ จากประเทศอนิ เดยี มาผลติ ทหี่ มบู่ า้ นทา่ ดหี มีอา เภอเชยี งคานจงั หวดั เลย เป็นท่าดีหมีโมเดลที่มีพลังการตลาดการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างสูง ทาให้เป็นเร่ืองเป็นราวเป็นข่าวแพร่หลายไปในทุกระดับชั้นของสังคมไทย จึงมีผู้สนใจไปศึกษาดูงานบ้าง ไปสังเกตการณ์ตรง ๆ บ้าง ลักลอบบ้าง มกี ารสง่ั ซอื้ เครอื่ งจกั รจากอนิ เดยี มาผา่ เครอื่ งลองทา เองดบู า้ ง เกดิ มเี ครอื่ งจกั ร ผลิตจานกาบหมากสายพันธุ์ไทยใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกหลายรายพร้อม ๆ กัน ทาให้การผลิตจานกาบหมากได้แพร่หลายออกไป จนวันนี้นับได้ว่าใกล้เคียง กับการมีโรงงานผลิตอยู่ทั่วประเทศแล้ว ในปัจจุบันการแข่งขันกันทา
74 7๔
อนุสาร อ.ส.ท. เมษายน ๒๕๖๓