Page 243 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 243

ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด เราก็ยังเห็นถึงสภาวธรรมที่เป็น ปกตธิ รรมดาธรรมชาตอิ นั นี้ แตก่ อ็ กี นนั่ แหละการทจี่ ะเหน็ ถงึ สภาวะทเี่ ปน็ ธรรมดาธรรมชาติอันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ใครเห็นได้ก็ไม่ใช่ธรรมดา... อะไรที่ไม่ธรรมดา ?
สติ ไม่ใช่สติธรรมดาสามัญ แต่เป็นสติที่มีกาลังที่เป็นพิเศษขึ้นมา ต้องมีสมาธิแก่กล้าพอสมควร แล้วก็จะต้องมีปัญญา การใส่ใจพิจารณา อย่างแยบคาย ถึงจะเห็นอาการเหล่านี้ได้ นั่นเป็นกระบวนการของการ พัฒนาในการปฏิบัติธรรม การที่เราสังเกตอาการพระไตรลักษณ์ กาหนด รู้อาการเกิดดับของอารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกาย-เวทนา-จิต- ธ ร ร ม ห ร อื ว า่ อ า ก า ร ข อ ง ร ปู - เ ว ท น า - ส ญั ญ า - ส งั ข า ร - ว ญิ ญ า ณ ห ร อื ร ปู - เ ส ยี ง - กลิ่น-รส-สัมผัส-ธรรมารมณ์ที่เกิดขึ้นกับใจของเรา การพิจารณาเหล่านี้ ไม่ได้ต้องไป(พิจารณาสิ่งที่อยู่)ไกลมากนัก แต่นั่นคือวิธีการที่จะพัฒนา สติปัญญาให้เฉียบแหลม ให้ชัดเจนมากขึ้น ให้คลายอุปาทานได้ง่ายขึ้น เป็นวิธีการที่จะทาให้จิตของเราได้เจอกับความอิสระ ไม่ต้องคลุกคลีกับ อารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่งจนเกิดความทุกข์ขึ้นมา
เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่มีปัญญาเกิดขึ้นมาแล้ว ปัญญาอันนั้นแหละจะ ทาหน้าที่ด้วยตัวของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเราต้องไปสั่งต้องไปหา แต่เพราะการ พัฒนาปัญญา/การทาให้มีปัญญาเกิดขึ้น และรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ด้วย ปัญญาในลักษณะอย่างนี้ เมื่อปัญญามีความคล่องแคล่วมีความชานาญ และมกี า ลงั ยอ่ มทา หนา้ ทขี่ องตน ทา หนา้ ทที่ จี่ ะรถู้ งึ ความเปน็ จรงิ ทา หนา้ ที่ ที่จะตัด ธรรมชาติของตัวปัญญาเกิดขึ้นมาเพื่อตัด ตัดอะไร ? ตัดอวิชชา ตดั ความไมร่ ู้ ตดั ความทกุ ข์ เมอื่ ไดร้ ใู้ นสงิ่ ทตี่ อ้ งรหู้ รอื เขา้ ใจ ความทกุ ขน์ นั้ ก็จะดับไป ความเคลือบแคลงสงสัยก็ดับไปหายไป เหลือแต่ความสงบ มี
239


































































































   241   242   243   244   245