Page 116 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาหัวข้อธรรม
P. 116

976
จรงิ ๆ การทเี่ รา...เพราะการเวยี นวา่ ยตายเกดิ ในภพภมู ติ า่ ง ๆ มนั กเ็ หมอื นกบั เราเกดิ แคน่ ี้ คดิ งา่ ย ๆ แค่ตั้งแต่เกิดมาจนถึงนี่นะ ชีวิตเราประสบกับความสุขทุกข์ผ่านมากี่รอบ...หลายอย่างนะ กี่อย่าง...หลาย อย่าง ที่วนเวียนกับความทุกข์มาเรื่อย ๆ เดี๋ยวทุกข์ เดี๋ยวเป็นอย่างนั้น เดี๋ยวเป็นอย่างนี้ เพราะนี่คือวัฏจักร สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องเกิดกับภพภูมิ อย่างมนุษย์นี่นะ เขาเรียกกามภูมิ ก็คือมีความยินดีพอใจเป็นที่ตั้ง มีอาศัย ความยินดีพอใจในอารมณ์ต่าง ๆ ที่เข้ากระทบ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เพราะฉะนั้น เรา...เวลาเห็นมีผัสสะ มีการกระทบเข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ พอใจไม่พอใจ เป็นการวนอยู่ ๆ และเราพอใจ ก็อยากอยู่ต่อ ไม่พอใจก็อยากสลัดออกไป เดี๋ยวพอใจเรื่องใหม่ ก็อยาก เกาะเกี่ยวอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ในกามภูมิ เพราะฉะนั้น การที่เราเห็นว่า ถ้าเห็นทางที่จะออกจากทุกข์ ออกจาก วัฏสงสาร ลองถามตัวเองว่า ควรทาอย่างไร ควรทาอย่างไร
จริง ๆ แล้ว ถ้าพิจารณาอีกอย่างหนึ่ง เราใช้เวลาน้อยมากในการปฏิบัติธรรม ที่จะเดินทางออกจาก ทกุ ข์ ซงึ่ เปน็ เปา้ หมายสงู สดุ ของมนษุ ย์ แมแ้ ตเ่ ทวดากบ็ อกวา่ การหลดุ พน้ จากวฏั สงสารนนั้ เปน็ สงิ่ ทสี่ า คญั ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นสิ่งที่สาคัญและยิ่งใหญ่ที่สุด สาหรับปราชญ์ทั้งหลาย ผู้รู้ทั้งหลาย จะเห็นถึงการพ้นจาก ทุกข์เป็นสิ่งสาคัญ แล้วการที่เราลงทุนปีละ ๕ วัน ๗ วัน นี่นะ แล้วเราก็อยากหลุดพ้น แสดงว่าการลงทุน แค่นี้ได้ผลมหาศาลนะ ได้ผลมากมาย เห็นผลเยอะมาก
ดูสิเราลงทุนนี่นะ เรารู้สึกว่า เอ่อ! แล้วเรายังทาอย่างอื่นได้ด้วย ไม่ใช่ว่าเราลงทุนตรงนี้แล้ว เราทา อะไร...ดาเนินชีวิตของเราไม่ได้ แค่เราลงทุนให้ความสาคัญกับรูปนาม รู้อาการพระไตรลักษณ์ แล้วถ้าเรารู้ แนวทาง เราใช้ได้กับชีวิตประจาวัน...ทางานปกติของเรา ดูจิตไป ควบคู่กันไปได้เสมออยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การลงทุนแบบนี้ เราสามารถทาได้ตลอดเวลา เพียงแต่ถ้าเรามีกาลังเพิ่มขึ้น ก็ลงทุนเพิ่มขึ้นหน่อย ให้เวลา ตัวเองเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะมีความเพียรใส่ใจ เพื่อเดินทางไปสู่เป้าหมาย การดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง
เ พ ร า ะ ฉ ะ น นั ้ ก ข็ อ อ น โุ ม ท น า บ ญุ ก บั โ ย ค ที กุ ๆ ค น ท ไี ่ ด ม้ า ป ฏ บิ ตั ธิ ร ร ม ใ น ช ว่ ง ว นั ส ง่ ท า้ ย ป เี ก า่ ต อ้ น ร บั ปีใหม่ เพื่อทาให้เกิดเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต จริง ๆ ความเป็นมงคล คือจิตที่บริสุทธิ์ที่ผ่องใส คือสติ สมาธิ ปัญญานั่นแหละ เรามาพัฒนาสติปัญญาให้เรา...ให้เป็นมงคลกับชีวิตเรา เพราะฉะนั้น ก็ขออนุโมทนาบุญ และขอให้บุญกุศลอันนี้ ส่งผลให้พวกเราทุก ๆ คน มีสติ สมาธิ ปัญญา ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อที่จะให้เข้าถึง มรรคผลนิพพาน สมความปรารถนาโดยพลันทุก ๆ คน เจริญพร
อ่ะ!เดี๋ยวเรา...นั่ง ใช้เวลา ๑๐ นาที เจริญพลังนิดหนึ่งนะ สัก ๑๐ นาที ก่อนที่จะแผ่เมตตากัน ฟัง ธรรมแล้ว บางคนฟังไปหลับไป บางคนฟังไปคิดไป บางคนฟังไปไล่สภาวะไป
ทาใจให้มีความผ่องใสขึ้น ตอนนี้เรามาทาใจให้มีพลัง ใจที่ดี จิตใจที่ดีแล้วมีความผ่องใส มีความ สงบ ทาจิตให้มีกาลังที่จะแผ่เมตตา แผ่บุญ ทาใจให้มีกาลัง ทาใจให้ว่าง ให้สว่าง ให้ใส ให้มั่นคง ให้สะอาด แล้วใช้จิตที่เต็มไปด้วยพลังของความใส ความมั่นคง ความสะอาดอันนี้ มาเปลี่ยนรูป ชาระรูป ล้างรูปออก ไป ลองดู...สังเกตที่ตัวเรา ที่ตัวที่นั่งอยู่ว่า ตาแหน่งไหนที่มีอาการเป็นมัว ๆ สลัว ๆ เป็นเงา เป็นทึบ ๆ ไม่


































































































   114   115   116   117   118