Page 97 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 97
�
ท่านถามว่า “ทาอะไรน่ะ..หือ..” เราบอกว่า “..เช็ดบาตั้รครับ..” ท่านว่า
“เช็ดเป็นร..” เราตั้อบท่าน “เป็นอย่ครับ..” ท่านว่าอีกว่า “..ตั้้องเชด
็
ู
ึ
จนร้อนนู่นนะ..” หลวงปู่ท่านว่ายังงั�น โอ้…เราเพิ่งไดยินเรื่องนี� อาจารย
้
์
พทธวงศ์ไม่ได้บอกเรา ความจริงเราไม่เคยเช็ดจนร้อนซักที เราเช็ด
้
้
ั
็
ั
็
็
เหนแค่ว่ามนแห้งแล้วกพอ หลวงป่ท่านว่าเชดจนร้อนโน่นนะ ตงแต่
ู
วันน้นเป็นต้นมา เราก็เช็ดบาตรจนร้อนนู่นน่ะอย่างท่านบอกเราใน
ั
ิ
ั
วันน้นเสมอ เรามาทำราบทำีหลังว่าบาตรต้องล้างให้ดี จนให้มันไม่มีกล่น
ิ
เวลาเช็ดก็ต้องเช็ดจนมันร้อน มันแห้งสนทำ อันนเผ่อว่าในบางวันมัน
ี
ื
�
ไม่มีแดด เช็ดให้ร้อนไล่ไอน��าตั้ามซอกตั้ามตั้ะเข็บบาตั้รให้มันแห้งจริง ๆ
�
ั
�
ขนาดนนน่ะ เพราะฉะนน ตั้้องล้างให้ดี เราไปอ่านดูทีหลัง ก็มีปรากฏิ
ั
ั
ในบทละเอียดในหนังสือพระวินัย คือ หนังสือสตั้ตั้ปัพพบ้พพสิกขา
ั
ิ
และบพพสกขาวรรณนา รจนาโดย พระอมราภรกขตั้ บอกไว้ว่า ถ้าม ี
ิ
ิ
้
ั
แดด ต้องตากแดด ตากแดดไม่ใช่ตากทำ้งวัน ตากพอร้อน ตากโดย
�
หวังว่าน้าเป็นไอระเหยหนีไปจนแห้งสนิทำ ถ้าตากทำั้งวันก็ผิดพระวินัย
�
�
ั
่
อีก คือเป็นผู้ไม่ดูแลรักษาบาตรด้วยดี เป็นอาบัติ เพราะฉะนัน ตั้งแตั้
ื
น�นสืบมา เราดูแลรักษาบาตั้รอย่างดี แม้กระท่งว่าเร่องล้างบาตั้ร ก
ั
ั
็
ิ
ิ
ิ
ี
ล้างให้จนหมดกล่นคาวกล่นสาบท่อยู่ข้างใน กล่นคาวกล่นสาบอาหาร
ิ
ิ
มันไม่ใช่ว่าล้างออกได้ง่าย ในบาตั้รถ้าเราปิดไว้มักจะเห็นว่ามันมีกล่น
ั
�
เพราะฉะนน เวลาเอาบาตั้รไปเก็บ เราตั้้องเปิดไว้ เช็ดให้แห้งแล้ว
ั
ั
น่นแหละ ตั้ากแดดแล้วน่นแหละ ขนาดเราไปปิดไว้มันยังอบ พอถึง
ตั้อนบ่าย ๆ เย็น ๆ กลินออกมาเป็นกลนอาหารยังมีอย่บ้างเลย ตั้�งแตั้
ู
่
ั
่
่
ิ
ู
่
ั
ี
น�นมาเราก็เช็ดบาตั้รให้แห้งดังกล่าวน�น และนแสดงว่าหลวงป่ท่าน
ั
ู
คอยดูอยู่ ว่า เจ้านาคน่แกทาอะไรยังไงของแก ท่านคอยสังเกตั้ด
�
ี
�
�
ั
อาการของเราอยู่ ท่านก็เห็นว่าเราตั้ังอกตั้ังใจท�า แล้วมาเห็นเราน่งเช็ด
บาตั้รเป็นบาตั้รของท่านเสียด้วย ตั้ามธรรมดาบาตั้รของครูบาอาจารย์
l
ความเปนมาของเรา 83
็