Page 63 - Annual student loan -ebook
P. 63
48 49 49
ั
เหตุที่ยื่นขอระงบการ เอกสารที่ต้องนำสง สิทธิ/เงื่อนไขที่ได้รับ 3.12 การชำระหนี้ผ่านองค์กรนายจ้าง
่
เรียกให้ชำระหนี้ ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ผู้กู้ยืมเงินมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญา
ี
ั
2. ผู้กู้ยืมเงินได้รับอนุมัติการระงบการเรยกให ้ กู้ยืมเงินโดยเคร่งครด เพือประโยชนในการบรหารกองทนและการตดตามการชำระเงนคนกองทน โดยผู้กู้ยืมเงินมีหน้าที่
ั
ิ
ิ
ื
ุ
์
่
ิ
ุ
ชำระหนี้แล้ว มีหน้าที่รายงานสถานภาพต่อ ดังต่อไปนี้
กองทุนเป็นประจำทุก 5 ปี ทั้งนี้ ใหรายงาน (1) ให้ความยินยอมในขณะทำสัญญากู้ยืมเงิน เพื่อให้ผู้มีหน้าที่จ่ายเงินได้พึงประเมน ตามมาตรา 40 (1)
้
ิ
่
ั
ภายใน 30 วนกอนครบระยะเวลา 5 ปีนับแต ่
วันที่ได้รับอนุมัติ และภายใน 30 วันก่อนครบ แห่งประมวลรัษฎากร หักเงินได้พึงประเมิน (เงินเดือน/ค่าจ้างตามการจ้างแรงงาน) ของตนตามจำนวนที่กองทุนแจ้ง
้
ระยะเวลา 5 ปีในคราวถัด ๆ ไป โดยต้องยื่น ใหทราบ เพื่อชำระเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาคืนกองทุน
่
ั
ี
หลกฐานทุกรายการตามทเคยยื่นคำขอระงบการ (2) แจ้งสถานะการเป็นผู้กู้ยืมเงินต่อหัวหน้าหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่ตนทำงานด้วยภายใน 30 วัน
ั
้
ิ
่
ื
เรยกใหชำระหนีในครั้งแรก นับแต่วันที่เริ่มปฏิบัติงาน และยินยอมให้หักเงินไดพึงประเมนของตนเพือชำระคนกองทุน
ี
้
้
้
ั
3. หากผู้กู้ยืมเงินที่ไดรับอนุมัติการระงบการ (3) ยินยอมให้กองทุนเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในครอบครองของบุคคลอื่น รวมทั้งยินยอม
ี
เรยกให้ชำระหนี้ ไม่รายงานสถานภาพ หรือ ให้กองทุนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน และการชำระเงินคืนกองทุน
ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้กู้ยืมเงินเป็นผู้ที่สามารถ
ุ
ิ
่
ุ
้
ึ
์กรนายจาง หมายถง
ิ
ี
้
ชำระเงนคนกองทนได ใหการระงบการเรยกให ้ 3 3. .1 12 2. .1 1 อ อง งค ค์กรนายจ้าง หมายถึง บคคลธรรมดา คณะบคคล หรือนิติบุคคลทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้จายเงน
ุ
ั
ื
้
ื
ิ
ิ
้
ชำระหนี้เป็นอนสิ้นผล และใหผู้กู้ยืมเงิน ได้พึงประเมน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร (เงนเดอน/ค่าจ้างตามการจ้างแรงงาน) มีหน้าที่หักเงินได้
ั
ชำระหนีตามสัญญากู้ยืมเงินเดิม โดยกองทุน พึงประเมินของผู้กู้ยืมเงินซึ่งเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินดังกล่าว เพื่อชำระเงินกู้ยืมคืน
้
จะนำยอดหนี้คงเหลือนับแต่วันที่สิ้นสุดการ ตามจำนวนที่กองทุนแจ้งให้ทราบ โดยให้นำส่งกรมสรรพากรภายในกำหนดระยะเวลานำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ั
ี
่
้
้
ี
ระงบการเรยกใหชำระหนีมาคำนวณใหม และ ตามหลกเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดกรมสรรพากร ประกาศกำหนด
ั
ให้ชำระหนี้ตามจำนวนทกำหนดภายใน การหกเงินดังกล่าว ต้องหักให้กองทุนเป็นลำดับแรกถัดจากการหักภาษี ณ ที่จ่าย และการหักเงินเขา
่
ี
ั
้
ระยะเวลาที่เหลืออยู่ตามสัญญากู้ยืมเงินเดิม กองทุนที่ผู้กู้ยืมเงินต้องถูกหักตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรอง
โดยระยะเวลาที่ระงับการเรียกใหชำระหนี้ เลี้ยงชีพ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม
้
ี
้
่
ที่เกิดกอนวันที่การระงบการเรยกใหชำระหนี ้
ั
สิ้นผลจะไมถกนับรวมเขาในระยะเวลาการ 3 3. .1 12 2. .2 2 ข ขันตอนการแจ้งหักเงิน ปัจจุบันกองทุนได้เริ่มส่งหนังสือแจ้งการชำระหนี้คืนกองทุนเงินให้กู้ยืม
ู
้
่
้
้
ิ
ั
้
ันตอนการแจงหกเงน
ชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินรายนั้น เพื่อการศึกษา ด้วยวิธีการหักเงินเดือนถึงผู้กู้ยืม 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) ผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ (ปกติ)
(2) ผู้กู้ยืมเงนที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความก่อนฟองคดี (3) ผู้กู้ยืมเงนที่ทำสัญญาประนีประนอมความในศาล
ิ
ิ
้
5. ผู้กู้ยืมเงินเป็นผู้ที่ศาลได้มี 1. แบบคำขอระงับการเรียกใหชำระหนี้ การขอระงับการเรียกให้ชำระหนี้คืนกองทุน (พิพากษาตามยอม) ดังนี้
้
ั
ี
้
คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด (กยศ./กรอ. 207-2) ตามเหตุนี้ เป็นการระงบการเรยกใหชำระหนี้
ุ
้
ั
ู
ิ
ุ
และกองทนได้ดำเนนการ สำหรับผู้กู้ยืมเงินในคดีล้มละลายเท่านั้น (1) กองทนตรวจสอบขอมลของผู้กู้ยืมเงิน จากผู้ถือครองข้อมูล ได้แก่ ประกันสังคม กรมบญชีกลาง
้
็
ั
์
ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดี 2. สำเนาคำสั่งพิทักษ์ทรพยเดดขาด พรอม ผู้ค้ำประกันยังมีความรับผิดชอบที่จะต้อง กรมสรรพากร
้
้
ลมละลายแล้ว ใหเจาพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้รับรอง ชำระหนีสำหรบยอดหนี้คงเหลือจากที่กองทุนได้ (2) กองทุนส่งหนังสือแจ้งผู้กู้ยืมเงิน ก่อนที่นายจ้างจะทำการหักเงินเดือน
ั
้
้
สำเนาถกต้อง ดำเนินการยนคำขอรบชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
ู
ื
ั
่
ุ
ุ
ั
้
3. สำเนาบัตรประจำตวประชาชน และ แลว (3) กองทนส่งหนังสือแจ้งนายจ้างให้หักเงินเดือนผู้กู้ยืมเงิน (การหักเงินเดือนจะเริ่มต่อเมื่อกองทนได ้
สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้ยืมเงิน แจ้งต่อนายจ้างอย่างเป็นทางการเท่านั้น)
โดยผู้กู้ยืมเงินลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง (4) นายจ้างหักเงินเดือนนำส่งกรมสรรพกร