Page 105 - water pocket book_Neat
P. 105
๕.๒ ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ
�
ื
เพ่อให้แผนแม่บทกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรน้ำ ๒๐ ปี สำมำรถด�ำเนินกำรได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ
ตำมเป้ำหมำยท่ก�ำหนด มีข้อเสนอแนะดังน ้ ี
ี
ื
ิ
๑) กำรขับเคล่อนแผนแม่บทไปสู่กำรปฏิบัต ในระดับชำต คณะกรรมกำรทรัพยำกรน้ำแห่งชำต ิ
ิ
�
�
ื
ิ
(กนช.) และส�ำนักงำนทรัพยำกรน้ำแห่งชำต (สทนช.) ต้องเป็นหน่วยงำนหลักในกำรขับเคล่อน ก�ำกับ และประสำน
�
กำรด�ำเนินกำร ให้แผนแม่บทกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรน้ำ ไปสู่กำรปฏิบัติในทุกรัฐบำล ส่วนในระดับภูมิภำค
ี
และพ้นท คณะกรรมกำรลุ่มน้ำ ต้องมีกระบวนกำรสรรหำท่เหมำะสม มีทุกภำคส่วนเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรเป็น
ื
ี
่
�
่
ี
ี
ี
ื
ื
คณะกรรมกำร เพ่อสำมำรถแก้ไขปัญหำในพ้นท ร่วมกับหน่วยงำนรำชกำรท่เก่ยวข้องได้อย่ำงมีประสิทธิภำพเช่อม
ื
ิ
�
โยงสอดคล้องกับ แผนแม่บทกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรน้ำระดับชำต และระดับพ้นท ่ ี
ื
ี
๒) หน่วยงำนรำชกำรท่เก่ยวข้อง ต้องน�ำแผนแม่บทกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรน้ำ ๒๐ ปี
ี
�
แปลงสู่กำรปฏิบัต ให้สอดคล้องกับแผนงำนระดับกระทรวง กรม ภูมิภำค จังหวัด และท้องถ่น
ิ
ิ
�
๓) ในกำรด�ำเนินกำรตำมแผนแม่บทกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรน้ำ ๒๐ ปี ให้เน้นกำรม ี
ส่วนร่วมของประชำชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพ้นท ่ ี
ื
�
ี
๔) ควรศึกษำเตรียมควำมพร้อมล่วงหน้ำในกำรผันน้ำจำกภำยนอก หรือลุ่มน้ำท่ไหลออก
�
ั
ต่ำงประเทศเน่องจำกเป็นโครงกำรท่มีมูลค่ำกำรลงทุนสูงมำก และมีประโยชน์ในกำรเสริมสร้ำงควำมม่นคงของน้ำ �
ี
ื
ต้นทุนในระยะยำว
๕) ในพ้นท่เกษตรอำศัยน้ำฝนนอกเขตชลประทำน ควรพัฒนำระบบน้ำบำดำลเพ่อกำรเกษตร
�
ี
�
ื
ื
ั
�
ื
ื
ื
ี
ื
่
ึ
ในพ้นทีซ่งมีศักยภำพเหมำะสม ส่วนพ้นท่อ่นๆ ให้จดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ เพ่อเก็บกักและใช้ประโยชน์จำก
ี
ี
ื
ั
ั
น้ำฝนในพ้นท่ให้มำกท่สุด มีควำมม่นคงสำมำรถปลูกพืชได้อย่ำงน้อย ๑ คร้งในฤดูฝน
�
ี
ื
ี
ื
ี
๖) ควรเลือกชนิดพืชท่เหมำะสมกับพ้นท ตำมนโยบำยกำรจัดกำรพ้นท่เกษตร (Zoning
่
ื
by Agri-map) ท้งในเขตและนอกเขตชลประทำน เพ่อลดควำมเส่ยง และเพ่มประสิทธิภำพกำรผลิต
ี
ิ
ั
�
ี
�
๗) ต้องสร้ำงกลไกเพ่อให้มีกำรจัดสรรน้ำท่เป็นธรรม ระหว่ำงกิจกรรม หรือระดับลุ่มน้ำ
ื
ี
�
ื
เพ่อลดข้อขัดแย้งในกรณีท่เกิดกำรขำดแคลนน้ำ หรือภำวะแล้ง
ี
ื
ี
�
๘) ควรควบคุมกำรใช้ประโยชน์ท่ดินในพ้นท่ต้นน้ำ หรือเขตท่มีควำมลำดชันสูง เพ่อให้ม ี
ื
ี
�
ั
ควำมสมดุลของน้ำท่ำ ท้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง
๙) ควรจัดท�ำระบบฐำนข้อมูลส่วนกลำง โดยบูรณำกำรข้อมูลท่ผ่ำนกระบวนกำรวิเครำะห์
ี
จำกหน่วยงำนรำชกำรเจ้ำของข้อมูล และมีกำรปรับปรุงข้อมูลอย่ำงต่อเน่อง สำมำรถแบ่งปัน และน�ำข้อมูลมำใช้ได้
ื
อย่ำงมีประสิทธิภำพ
ั
ี
๑๐) สร้ำงระบบคำดกำรณ์ภูมิอำกำศท่แม่นย�ำ ท้งต�ำแหน่ง ระยะเวลำ และกำรคำด
กำรณ์ระยะยำว รวมท้งกำรติดต้งระบบเฝ้ำระวังสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ในพ้นท่เส่ยงภัย พร้อมท้งศึกษำผลกระทบจำก
ี
ั
ั
ั
ี
ื
ั
�
ื
ี
ี
กำรเปล่ยนแปลงของสภำพภูมิอำกำศท่มีต่อควำมม่นคงด้ำนน้ำและควำมสำมำรถในกำรบริหำรจัดกำรน้ำในระดับพ้นท ี ่
�
ี
ิ
ึ
ี
ื
เพ่อรองรับควำมเส่ยงท่เพ่มมำกข้นจำกกำรเปล่ยนแปลงสภำพภูมิอำกำศในอนำคต
ี
�
๑๑) กำรจัดกำรด้ำนคุณภำพน้ำ ควรด�ำเนินกำรเชิงรุก โดยส่งเสริมให้ลดปริมำณน้ำเสีย
�
และมีกำรบ�ำบัดน้ำเสียจำกแหล่งก�ำเนิด เช่น บ้ำนเรือน อุตสำหกรรมขนำดเล็ก และพ้นท่เกษตร
�
ี
ื
�
๑๒) แผนแม่บทกำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกรน้ำ ๒๐ ปี ต้องมีกำรทบทวนสถำนกำรณ์และ
ี
ี
แนวทำงกำรด�ำเนินงำนทุก ๕ ปี ตำมระยะเวลำและสถำนกำรณ์ท่เปล่ยนแปลงไป