Page 4 - Annual 22 Basin of thailand
P. 4
¤íÒ¹íÒ
่
ี
่
การแบงลมน�้าในประเทศไทย ไดมีการพัฒนามาตลอดตั้งแตป 2506 ตามศักยภาพ
้
ุ่
ั
ของเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ในขณะนั้น จนกระท่งในปี 2536
็
ุ่
คณะกรรมการอุทกวิทยาแห่งชาติไดจัดท�าเปนมาตรฐาน 25 ลมน�้าหลักและ 254 ลมน�้าสาขา
้
ุ่
ี
�
ซึ่งบางลุ่มน�้าไม่สามารถท่จะบริหารจัดการน�้าได้อย่างเอกเทศ สืบเนื่องจากข้อจากัด
ี
ี
จากข้อมูลในอดีตท่ใช้แผนท่มาตราส่วน 1 : 50,000 ในการแบ่งเขตลมน�้า แต่มิได้มีผลบังคับ
ุ่
ี
ทางกฎหมาย จึงส่งผลให้เกิดปัญหาในด้านการบริหารจัดการท่ขาดเอกภาพไม่ต่อเนื่อง
็
่
่
เชื่อมโยงกันอยางเปนระบบ โดยเฉพาะอยางยิ่งในภาวะวิกฤต ประกอบกับพระราชบัญญัติ
ทรัพยากรน�้า พ.ศ. 2561 หมวด 3 ส่วนที่ 3 มาตรา 25 “เพื่อประโยชน์ในการบริหาร
ุ่
จัดการทรัพยากรน�้า ให้มีการก�าหนดลมน�้า โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ท้งนี้ให้ค�านึงถึง
ั
สภาพอุทกวิทยา สภาพภูมิศาสตร์ ระบบนิเวศ การตั้งถิ่นฐาน การผังเมืองผังน�้าและ
เขตการปกครองประกอบด้วย” ดังนั้น ส�านักงานทรัพยากรน�้าแห่งชาติ จึงได้มีการจัดท�า
ี
ุ่
ี
่
โครงการศึกษาทบทวนการแบงพ้นท่ลมน�้าท่เหมาะสมส�าหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน�้า
ื
ื
ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพ่อให้การบริหารจัดการน�้าให้มีความคล่องตัวสอดรับ
กับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์น�้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ื
หนังสือ “ข้อมูลพ้นฐาน 22 ลุ่มน�้า” เล่มนี้ได้สรุปเนื้อหามาจากรายงานการศึกษา
โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งแสดงถึงพัฒนาการแบ่งลุ่มน�้าของประเทศไทย รวมถึง
ั
ื
ื
ข้อมูลพ้นฐานของลุ่มน�้า สภาพท่วไป สภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรดิน พ้นท่การเกษตร
ี
ทรัพยากรป่าไม้และชั้นคุณภาพลุ่มน�้า โครงสร้างพ้นฐานของลุ่มน�้า ความต้องการใช้น�้า
ื
และสภาพปัญหาด้านทรัพยากรน�้า ซึ่งผู้สนใจศึกษาจะได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
ื
การแบ่งพ้นท่ลุ่มน�้าใหม่ 22 ลุ่มน�้า รวมถึงรับทราบปัญหาและเห็นความส�าคัญ
ี
ื
่
ของการจัดการทรัพยากรน�้าให้เกิดการร่วมมือและบูรณาการกันทุกภาคส่วน เพอให้
เกิดการดูแลรักษาทรัพยากรน�้าอย่างต่อเนื่องทั้งประเทศ
2564