Page 10 - งานรูปเล่ม
P. 10
้
ั
่
ส่วนที3 กำรทำงำนของem ball บำบดนำเสีย
โดยมหำวิทยำลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล ้ำธนบุรี (มจธ.) และไบโอเทค
่
้
่
กำรที่นำ ”เนำเสีย” หรือด ้อยคุณภำพลง เนืองมำจำกเกิดกำรย่อยสลำยของสำรอินทรีย์ เช่น สิงปฏิกูล ขยะมูลฝอย (ใน
่
่
่
่
่
้
้
เขตชุมชน เมือง) หรือเศษซำกพืช (บริเวณพืนทีเกษตร เช่น นำข ้ำว สวน) ทีจมอยูใต ้นำโดยจุลินทรีย์ทีอยูในธรรมชำติ
่
่
้
้
ซึงขณะทีเกิดกำรย่อยสลำยน้นจะเกิดกำรใช ้ ออกซิเจนในนำ ทำให ้ปริมำณออกซิเจนในนำลดลง (อำจจะเรียกว่ำนำเริม
ั
่
้
่
่
ั
เสีย) หลังจำกน้นสำรอินทรีย์จะถูกย่อยสลำยต่อโดยจุลินทรีย์ทีไม่ใช ้ อำกำศต่อไป
ั
้
ผลของกำรย่อยสลำยคร้งนี จะเกิดก๊ำซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (ก๊ำซไข่เนำ) แอมโมเนีย หรืออำจเกิดกรดอินทรีย์ (ซึง ่
่
้
็
่
ก่อให ้เกิดกลินเหมนเปรียว) สภำวะของกำรย่อยสลำยสำรอินทรีย์น้นขึนอยูกับปริมำณของออกซิเจนในนำ
ั
้
้
่
้
้
่
้
โดยทั่วไปแล ้วออกซิเจนในนำเกิดขึนจำกกำรสังเครำะห์แสงของจุลินทรีย์ทีสังเครำะห์แสงหรือพืชนำและจำกกำร
่
ถ่ำยเทจำกอำกำศทีผิวหน้ำ ซึงกำรถ่ำยเทโดยธรรมชำติน้นเปนปจจยของ กระแสลม หรือควำมเรวของนำ ดังน้นใน
ั
้
่
็
ั
็
ั
ั
สภำพทีนำมีกำรไหลถ่ำยเทจะช่วย ให ้มีกำรถ่ำยเทออกซิเจน
่
้
1) ส ำหรบพืนทีชุมชนเขตเมือง ในระยะทีมีนำท่วมและมีกำรไหลด ้วยอัตรำกำรไหลสูงมำกน้น ถ ้ำใต ้พืนนำมีสำรอินทรีย์
้
ั
่
ั
้
้
่
้
้
้
หรือขยะสะสมอยู จุลินทรีย์ในนำจะย่อยสลำยสำรอินทรีย์โดยใช ้ ออกซิเจน ส่งผลให ้คุณภำพนำลดลง โดยดูจำก ค่ำกำร
่
่
้
่
็
้
่
้
ละลำยของออกซิเจนในนำ (DO) จะลดลง และค่ำบีโอดี (BOD) ซึงเปนค่ำทีบอกปริมำณสำรอินทรีย์ในนำจะเพิมขึน
(ค่ำ DO ที่เหมำะสมไม่ควรต ่ำกว่ำ 3 มิลลิกรมต่อลิตร และค่ำบีโอดีที่เหมำะสมไม่ควรเกิน 2 มิลลิกรมต่อลิตร)
ั
ั
กำรแก ้ไข
่
ั
่
้
็
ปองกันกำรสะสมของสิงปฏิกูล ขยะมูลฝอย โดยกำรมีระบบกำรจดเกบ สิงปฏิกูลและขยะมูลฝอยในพื้นที่ ออกมำกำจัด
ให ้เหมำะสม
็
่
้
ั
เพิมออกซิเจนในนำ เช่น กำรทำนำตก กำรให ้นำไหลเรวปนปวน กำรใช ้ เครืองจกรให ้อำกำศ ฯลฯ
ั
้
้
่
่
่
กำรเติมจุลินทรีย์หรือ EM ใน ช่วงนีอำจไม่ส่งผลส ำเรจมำกนก เนืองจำกควำมเข ้มข ้นของสิงสกปรกในรูป BOD ยังน้อย
้
่
่
็
ั
้
หรือเจือจำงเกินกว่ำที่จุลินทรีย์จะก ้ำจดได ้อย่ำงมีประสิทธิภำพ และควำมเรวของนำทำให ้จุลินทรีย์กระจำยตัวในแหล่ง
็
ั
นำมำกจนเจือจำงเกินไป
้
่
็
้
้
่
่
้
เมือนำเริมมีกำรทรงตัว หรือลดลง และกระแสนำเริมลดควำมเรวลง จนถึงนำนิงในระยะนีกำรถ่ำยเทออกซิเจนในนำจะ
่
้
้
ลดลง ถ ้ำที่พื้นใต ้นำมีสำรอินทรีย์สะสมอยู่ จุลินทรีย์จะย่อยสลำยมำกและออกซิเจนในนำลดลงจนสภำวะกำรย่อยสลำย
้
้
ั
่
่
็
้
็
้
้
่
เริมเปนแบบไม่ใช ้ อำกำศ (DO ต ่ำกว่ำ 2 มิลลิกรมต่อลิตร) นำเริมมีสีคลำขึนจนถึงดำ เริมมีกลินเหมน pH ของนำต ่ำลง
้
่
มีฟอง และตะกอนด ำ ผุดขึ้นมำ
กำรแก ้ไข
่
้
ั
กำจด สิงปฏิกูล ขยะมูลฝอย ออกจำกบริเวณนำขัง ไปกำจัดอย่ำงเหมำะสมนอกพื้นที่
่
เพิมออกซิเจน โดยกำรใช ้ เครืองเติมอำกำศ
่
้
้
กำรเติมจุลินทรีย์ หรือ EM ใน ช่วงนีสำมำรถทำได ้ แต่ระดับนำควรไม่เกิน 3 เมตร เนื่องมำจำก ถ ้ำระดับควำมลึก
้
มำกกว่ำ 3 เมตร ออกซิเจนจำกอำกำศและแสงแดดไม่สำมำรถแพร่ลงได ้ถึงพืน ท ้ำให ้จุลินทรีย์ที่เติมลงไปท ้ำงำนไม่ได ้
้
่
อย่ำงมีประสิทธิภำพ และควรทำในพืนทีจำกัด
้
้
็
2) ส ำหรบบริเวณพืนทีกำรเกษตร ในกรณีพืนทีเกษตรถูกนำท่วมเปนเวลำนำน เนืองจำกมีซำกพืชจมนำซึงเปนแหล่ง
่
ั
็
่
้
้
่
่
ั
็
้
สำรอินทรีย์ปริมำณมำก ส่งผลให ้เกิดปญหำคือเกิดกำรย่อยสลำยและดึงออกซิเจนในนำให ้ลดลงอย่ำงรวดเรว แม ้ว่ำ
กระแสนำอำจไหลเรว แต่อำจจะไม่สำมำรถทำให ้ออกซิเจนถูกถ่ำยเทลงนำได ้เพียงพอส ำหรบกำรย่อยสลำย กำรแก ้ไข
้
ั
็
้
่
ั
น้นควรเน้นทำเฉพำะในส่วนทีกระแสนำจำกบริเวณดังกล่ำวจะไหลเข ้ำชุมชน
้
กำรแก ้ไข