Page 59 - คู่มือความรู้เข้าใจในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเล่ม 2
P. 59
ี
มาตรา 13 ในกรณีท่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินตรวจพบว่าสัญญาใด
มีลักษณะตามมาตรา 12 ให้เสนอเร่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ื
ี
โดยให้ถือว่าเอกสารและหลักฐานท่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบหรือ
�
ึ
�
จัดทาข้นเป็นส่วนหน่งของสานวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ
ึ
ป.ป.ช. และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ด�าเนินการตามมาตรา 12 ต่อไป
ี
มาตรา 14 ในกรณีท่สัญญาสัมปทานของรัฐ หรือสัญญาท่รัฐให้จัดทา
�
ี
ิ
บริการสาธารณะหรือจัดให้มีส่งสาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์
ิ
ั
้
ื
่
ั
ั
ื
ี
ุ
จากทรพยากรธรรมชาตทงหมดหรอบางส่วน มเหตอนควรเชอได้ว่าเข้าลกษณะ
ั
ึ
ี
ื
ตามมาตรา 12 วรรคหน่งให้บุคคลดังต่อไปน้มีสิทธิย่นคาร้องต่อคณะกรรมการ
�
ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อยื่นค�าร้องต่อศาลปกครองสูงสุด
(1) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสอง
สภา ซึ่งเข้าชื่อรวมกันมีจ�านวนไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบคน
(2) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อรวมกันมีจ�านวนไม่น้อยกว่าห้าพันคน
ึ
(3) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินซ่งมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อย
กว่าสองในสามของกรรมการตรวจเงินแผ่นดินทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
(4) ผู้ตรวจการแผ่นดินซ่งปรึกษาหารือและเห็นชอบร่วมกันตาม
ึ
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน
ลักษณะหรือประเภทของสัญญาของรัฐตามวรรคหน่ง และหลักเกณฑ์
ึ
ื
ั
และวิธีการการเข้าช่อของผู้มีสิทธิเลือกต้งตาม (2) ให้เป็นไปตามท ่ ี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกาศก�าหนด
ี
�
�
ึ
คาร้องตามวรรคหน่งต้องมีหลักฐานชัดเจนเพียงพอท่จะดาเนินการ
ไต่สวนข้อเท็จจริงได้
เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับค�าร้องตามวรรคหนึ่งให้คณะกรรมการ
�
ป.ป.ช.ไต่สวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวัน ถ้ามีความจาเป็น
้
ั
้
คณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกนสองครง ครงละ
ิ
ั
�
ไม่เกินสามสิบวัน แต่ต้องบันทึกเหตุผลและความจาเป็นในการขยาย
59