Page 178 - สัมมนา 2_2563_Neat
P. 178
172
ั
ื่
(UP) ประเทศอินเดีย โดยมีวัตถุประสงค์เพอพฒนาธาตุอาหาร กลยุทธ์การจัดการเพอรักษาสภาพ
ื่
ของดินและผลผลิตอ้อยที่สูงขึ้น ดินที่ท าการทดลองเป็นดินร่วนปนทรายมีคาร์บอนอินทรีย์ต่ ามี
ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมปานกลาง ดินทดลองมี pH 6.54 EC 0.17 dsm คาร์บอนอินทรีย์
−1
3.70 กรัมต่อกิโลกรัม มีฟอสฟอรัส 20.40 กิโลกรัมต่อเฮกเตอร์ โพแทสเซียม 162 กิโลกรัมต่อเฮก
เตอร์ และมี สังกะสี, เหล็ก, แมงกานีส, ทองแดง และ ก ามะถัน 2.63, 56.48, 15.86, 1.46 และ
14.40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามล าดับ ค าแนะน า 100 เปอร์เซ็นต์ ของ ไนโตรเจนทั้งหมด,
ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ และโพแทสเซียมที่ละลายน้ า ส าหรับภูมิภาคคือ 180 กิโลกรัม, 80
กิโลกรัม และ 60 กิโลกรัมต่อเฮกแตร์ ตามล าดับและบนพื้นฐานการทดสอบดิน 200 กิโลกรัมต่อเฮก
แตร์ ไนโตรเจนทั้งหมด, 80 กิโลกรัม ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ และ 40 กิโลกรัม โพแทสเซียมที่
ั
ละลายน้ า ต่อเฮกแตร์ โดยวางแผนการทดลองแบบบล็อกสุ่ม มี 3 ซ้ า 9 ปัจจัย พนธุ์ CoS 08279
ั
ซึ่งเป็นพนธุ์ที่สุกในช่วงกลาง - ปลายถูกน าไปทดลอง ปุ๋ยคอกอินทรีย์เช่น ใส่ปุ๋ยคอกต่อปุ๋ยหมักกาก
พืช ปุ๋ยอนินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ (เชื้ออะโซโตแบคเตอร์และจุลินทร์ย์สังเคราะห์แสง) ถูกน าไปใช้ตาม
ื
ื
ื
การปฏิบัติทั้งในพชและพชไร่ ในช่วงทั้งสองปีของระบบพช – แรททูน การทดลองทั้ง 9 ปัจจัย มี
รายละเอียด (ตารางที่ 2) และผลการศึกษาพบว่าการทดลองทั้ง 9 ปัจจัย การใส่ปุ๋ยคอกต่อปุ๋ยหมัก
10 ตันต่อเฮกแตร์ + ใส่เชื้อเพลิงขยะ 50 เปอร์เซ็นต์ ใส่ปุ๋ยชีวภาพ (เชื้ออะโซโตแบคเตอร์ + จุลิ
นทร์ย์สังเคราะห์แสง) 12.5 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ละชนิดมีผลดีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของอ้อย
ื
ในพชทั้งสอง (113.10 ตันต่อเฮกแตร์) และพืชแรททูน (98.84 ตันต่อเฮกแตร์) (ตารางที่ 3 , 4) เมื่อ
เทียบกับวิธีอื่น ๆ การตอบสนองของปุ๋ยชีวภาพพบว่ามีความเด่นชัดมากขึ้น ไม่พบผลลัพธ์ที่มี
นัยส าคัญในเปอร์เซ็นต์ CCS ในอ้อย