Page 10 - ปฎิวัติรัสเซีย
P. 10
หลังการยึดอานาจโดยคอร์นิลอฟจบลง เคเรนสกี้ต้องการเรียกเสียง
สนับสนุนจากประชาชนจึงสั่งเปิดประชุมสภา ในวันที่ 27 กันยายน 1917 และ
ในวันที่ 20 ตุลาคม 1917 ซึ่งเป็นการประชุมของผู้แทนทุกกลุ่มในรัสเซีย
กลุ่มบอลเชวิคที่รู้ตัวว่าไม่สามารถคุมสถานการณ์ในสภามาดูได้ จึงไม่เข้า
ร่วมการประชุมทั้งสองครั้ง และพยายามเข้าไปคุมอานาจในสภาโซเวียดอย่าง
เด็ดขาด โดยร่วมมือกับผู้แทนของทหารที่มีอ านาจในสภาโซเวียต
ในวันที่ 23 ตุลาคม 1917 เลนินสามารถชักชวนให้คณะกรรมการกลาง
ของบอลเชวิคลงมติให้ใช้ก าลังยึดอานาจรัฐบาลชั่วคราวและฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่
ก าลังแตกแยก เพราะหากเลื่อนเวลาการก่อการ อาจพลาดโอกาสในการท า
ส าเร็จในภายภาคหน้า
พรรคในยุคปฏิวัติ
พรรคปฏิวัติสังคม เป็นพรรคที่เติบโตมาจากการลุกฮอของนักสู้ชนชั้น
ื
กลางกลุ่มเล็กๆ เดิมพรรคนี้มีฐานเสียงในชนบทในหมู่เกษตรกรยากจน แต่เมื่อ
แกนน าพรรคไปสนับสนุนสงครามและรัฐบาลชั่วคราวของคนชั้นกลาง โดยไม่
แก้ไขปัญหาในชนบท ท าให้เริ่มมีสมาชิกพรรคจ านวนมากแยกตัวออกไปตั้ง
พรรคปฏิวัติสังคมซีกซ้าย
พรรคบอลเชวิคในช่วงแรกเต็มไปด้วยความสับสน เพราะแกนน าอย่าง
สตาลิน ไปสนับสนุนรัฐบาลชั่วคราว ในขณะที่กลุ่มกรรมกรพนฐานไม่พอใจ แต่
ื้
เมื่อเลนินเดินทางกลับเข้าสู่รัสเซีย และเริ่มโจมตีนโยบายเก่าของแกนน าบอลเช-
วิค เริ่มเรียกร้องให้สภาโซเวียดล้มรัฐบาล และเริ่มรณรงค์ต่อต้านสงครามอย่าง
เป็นระบบ บอลเชวิคก็ขยายฐานเสียงในเมืองเพทโทรกราดอย่างรวดเร็ว จาก
เดิมที่พรรคปฏิวัติสังคมมีเสียงข้างมากในสภาโซเวียด พอถึงวันประชุมใหญ่ครั้ง
ที่สองในวันที่ 20 ตุลาคม 1917 ปรากฏว่าพรรคบอลเชวิคได้ 53% ของผู้แทน
และพรรคปฏิวัติสังคมซีกซ้ายได้อก 21% รวมเป็น 74% ของผู้แทนที่ต้องการ
ี
ปฏิวัติสังคมนิยม
9
