Page 7 - ซอล-New1
P. 7
เจ้าหญิงในราตรีกลีบมะเฟือง
กับประตูเมืองสงขลาและ
ประติมากรรมพญานาคพ่นน�้า
ี
ส�ำหรับชุดกลีบมะเฟืองสุดหรูชุดน้เรำได้ไป
ถ่ำยภำพกัน ณ สถำนที่ส�ำคัญทำงประวัติศำสตร์
2 แห่งด้วยกัน แห่งแรกก็คือที่ “ประตูเมือง
สงขลำ” ที่มีควำมเก่ำและเป็นสิ่งก่อสร้ำงคู่บ้ำน
ั
คู่เมืองสงขลำมำต้งแต่รัชสมัยพระบำทสมเด็จ
พระนั่งเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลที่ 3 ที่ในอดีตมี
กำรรุกรำนจำกข้ำศึกและมีกำรย้ำยที่ต้งของ
ั
ั
ี
เมืองถึง 3 คร้ง ซึ่งในคร้งที่ 3 น้มีกำรสร้ำง
ั
ก�ำแพงเมืองล้อมรอบ เพรำะภูมิประเทศเป็น
แหลมทรำย ชัยภูมิเป็นที่รำบ ไม่มีแนวภูเขำเป็น
ป้อมปรำกำร ก�ำแพงเมืองและป้อมนี้ เริ่มสร้ำง
เมื่อปี พ.ศ.2379 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2385 โดย
มีป้อมประตู จ�ำนวน 8 ป้อม และ 10 ประตู โดย
ใช้รูปแบบสถำปัตยกรรมแบบจีน ต่อมำในช่วง
ปี พ.ศ.2437 - 2448 ได้ร้อก�ำแพงเมืองส่วนใหญ่
ื
่
ุ
เพือขยำยถนนและปรบปรงตัวเมองให้กว้ำง
ื
ั
ขวำงมำกขึ้น โดยน�ำอิฐและหินจำกกำรร้อ
ื
ก�ำแพงส่วนใหญ่มำถมเพื่อสร้ำงถนน จึงท�ำให้
ก�ำแพงที่เคยล้อมรอบเมืองยำวประมำณ 3,300
เมตร เหลือเพียง 144 เมตร และยังคงรักษำ
ป้อมและบูรณะประตูเมืองแห่งนี้เอำไว้ และถือ
เป็นจุด Landmark ส�ำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยม
มำถ่ำยภำพกันอีกด้วย
สถำนที่แห่งที่ 2 ที่เจ้ำหญิงในชุดรำตรีสี
เขียวมรกต ได้ไปถ่ำยภำพก็คือ “หัวพญานาค”
ึ
ซึ่งเป็นส่วนหน่งของประติมำกรรมพญำนำคพ่น
้
่
นำ ที่เทศบำลนครสงขลำสรรค์สร้ำงขึนเพือ
�
้
ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณชำยหำดสมิหลำ โดยน�ำ
ี
แนวคิควำมเชื่อเก่ยวกับพญำนำคที่เชื่อว่ำ
�
พญำนำค เป็นสัญลักษณ์ของกำรก�ำเนิดน้ำและ ทองเหลืองรมสนิม มีการสร้างขึ้นเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่ง หัวพญานาค
ควำมอุดมสมบูรณ์ ชำวใต้จึงนับถือพญำนำค ต้งอยู่บริเวณสวนสองทะเล ปลายแหลมสนอ่อน มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
ั
ิ
ิ
เป็นสิ่งศักด์สิทธ์และกรำบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิร ิ ของล�าตัว 1.20 เมตร ความสูงจากฐานล�าตัวจนถึงปลายยอดสุดประมาณ
มงคลแก่ชีวิต 9 เมตร พ่นน�้าลงสู่ปากอ่าวทะเลสาบสงขลา ส่วนที่สอง สะดือพญานาค ตั้ง
ึ
ประติมำกรรมพญำนำคพ่นน้ำเป็นสัญลักษณ์ อยู่บริเวณลานชมดาวสนามสระบัว แหลมสมิหลา ลักษณะล�าตัวโค้งคร่ง
�
่
ั
ั
หนงของจงหวัดสงขลำ มลักษณะแบบลอยตว วงกลม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลอดใต้สะดือพญานาคให้เกิดความเป็นสิริมงคล
ี
ึ
สำมำรถมองเห็นได้รอบด้ำน เนื้อวัตถุเป็นโลหะ ส่วนที่สาม หางพญานาค ตั้งอยู่บริเวณชายหาดสมิหลา
Bambini TRENDY Magazine 7