Page 341 - เมืองลับแล(ง)
P. 341
ในสมัยอโยธยา และพิจารณาได้ว่าพระญายุธิษฐิระได้ตำบลบ้านย่านยาว อันเป็นชุมชนในขอบเขตของเมือง
ปากยมแล้วจึงชักชวนให้เจ้าพระญาติโลกราชยกทัพไปตีเมืองปากยมต่อไป
เมื่อประหารเจ้าเมืองปากยมแล้วยกทัพกลับมาเมืองสองแคว จากนั้นได้จัดรวบรวมไพร่พลชาวเมือง
ู้
สองแควได้หนึ่งหมื่นคนเศษโดยให้หมื่นหานนคร (หมื่นหาญแต่ท้อง เจ้าเมืองเขลางค์นครลำปาง) เป็นผ “แห่”
คือ เป็นผู้ควบคุมอพยพชาวสองแควไปถึงตำบลน้ำลืม ในเวลาค่ำ มีมหาเถรรูปหนึ่งมาบอกว่าที่นี่ไม่ควรนอน
ชาวเชลียงเขามีมากนักจักมากระทำร้าย หมื่นยี่ซาตอบว่าท่านอย่าร้อนใจ พวกข้ามีมากนักไม่เป็นไรก็พากันพัก
แรมทัพอยู่ ณ ที่นั้น ครั้นเวลาเที่ยงคืน ชาวเชลียงยกออกมาปล้นทัพ เสียชาวนคร(ลำปาง)ไปมาก [พระยา
ประชากิจกรจักร (แช่ม บุนนาค) ได้บอกว่าบ้านน้ำรึมอยู่ใกล้เมืองกำแพงเพชร ๒๐๐ เส้น อาจตรงกับตำบลน้ำ
รึม อำเภอเมืองตาก จังหวัดตากในปัจจุบัน] หรือเป็นไปได้ว่าเจ้าพระญาติโลกราชได้ให้หมื่นหาญนครแห่
ี
(อพยพผู้คน)ชาวเมืองสองแควมาทางเมืองตาก เพื่อกลับเมืองเชยงใหม่ กระนั้นจากลักษณะภูมิประเทศพบว่า
ตำบลน้ำรึม จังหวัดตาก อยู่ห่างไกลจากเมืองเชลียงอยู่มากยากที่พระญาเชลียงจะยกทัพไปถึงเขตชายแดน
ระหว่างเมืองสุโขทัยกับเมืองตาก เมื่อตรวจสอบในอาณาบริเวณพื้นที่เส้นทางเขาพลึง (จังหวัดอุตรดิตถ์กับ
จังหวัดแพร่) พบว่ามีชุมชนหมู่บ้านที่มีชื่อสอดคล้องกับตำบลน้ำลืมในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ คือ บ้านน้ำ
หลง ตำบลด่านนาขาม จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาพลึง สำหรับคำว่า “หลง” นั้น มีความหมายเดียวกับ
คำว่า “ลืม” บางครั้งใช้เป็นคำซ้อนว่า “หลงลืม” ซึ่งจากระยะทางจากเมืองเชลียง(ศรีสัชนาลัย)ผ่านมายัง
ตำบลบ้านตึก แล้วเดินทางผ่านทางช่องเขาเข้ามาในพื้นที่อำเภอลับแล ไปสู่บ้านน้ำหลง ตำบลด่านนาขามนั้น ก็
้
เป็นระยะทางที่เหมาะสมกว่า ที่พระญาเชลียงจะนำกองกำลังมาดักซุ้มโจมตีได เพราะใช้ระยะเวลาในการ
เดินทางเท้าราวครึ่งวันเท่านั้น
หมื่นหานนครสามารถคุ้มกันชาวสองแควไว้ได้พันกว่าคน หมื่นหาญนครตีฝ่าทัพของเมืองเชลียง
ออกมาได้ไปพึ่งทัพของหมื่นเพิงตีนเชียง กองทัพชาวใต้ที่ไล่มาจนถึงยามรุ่งอรุณ ครั้นเห็นฉัตรขาวอยู่ในทพของ
ั
ี
ึ
หมื่นเพิงตีนเชียงก็เข้าใจว่าเป็น “มหาราชเชียงใหม่” จึงชะงักอยู่ หมื่นเพิงตีนเชยงจงให้ม้าเร็วไปทลความเจ้า
ู
พระญาติโลกราช ๆ ก็ให้หมื่นม้าคำแหวงกับหมื่นพรานด้งนำทัพม้าไปหนึ่งพันกับพล “หน้าไม้ปืนหยา” คือพวก
หน้าไม้ที่ใช้ลูกศรอาบยาพิษไปด้วย ระดมยิงกองทัพเชลียง คราวนั้นทัพชาวใต้ (ชาวเชลียง) สูญเสียมากนัก จง
ึ
ระดมตีแหวกทัพกลับคืนไป
้
เมื่อขบวนทัพเดินทางมาถึง วังกองหาน มีคนทูลว่า “ชาวชะคราวจักเข้ามาผ่าทัพเรา” เจา
พระญาติโลกราชจึงโกรธนัก จึงให้หมื่นยี่ทรา (หมื่นยี่ทรา คาดว่าปกครองบริเวณอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน)
กับขุนม้าแห่หมู่ชาวสองแควไป แล้วพระองค์จึงแวะอยู่ทวังกองหาน ไปรบกับชาวชะคราว และได้ชาวชะ
ี่
คราวออกมา (“ออกมา” อาจตรงกับ “มาออก” หมายถึง มาขึ้นหรือมาสวามิภักดิ์) หั้นแล
จากบริบทนี้สามารถวิเคราะห์ภูมินามที่น่าสนใจ ๒ คำ คือ
มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง
หน้า ๕๓