Page 512 - เมืองลับแล(ง)
P. 512

นาม ๑ นายเกิด ๑ นายภุก ๑ บ่าวหลวงชุมพล บ้านท่าเสาเมืองลับแล ๓ ขุนพิทักภุมรา ๑
                      เสมียนบุน ๑ นายหน่าย ๑ นายอินตะ ๑ นายบุน ๑ บ้านเมืองพิไชย ๕ นายฟัก ๑ นายย้าย
                      ๑ หมื่นภิบาล ๑ เชียงพรม ๑ บ้านท่าเสาแขวงเมืองลับแล ๔ นาย ๑ นายฉิม ๑ นายอิน ๑
                      นายโห้ ๑ บ่าวพระอะไภยเมืองอุตะระดิฐ ๔ นายแก้ว ๑ นายเอี่ยมเย ๑ บ้านท่าเสาเมืองอุตะ

                                                                                               ุ่
                                                                            ิ
                      ระดิฐบ่าวหลวงมหาดไทย ๒ นายต่ายบ่าวหลวงนิกรเมืองอุตะระดฐ ๑ นายจรบ่าวพระทงยั้ง
                      อยู่เมืองลับแล ๑ นายมามิ่ง   บ้านอยู่เมืองลับแล บ่าวหลวงวังเมืองอุตะระดิฐ ๑ เสมียนป่าน
                                                                                          ุ
                      บ่าวพระลับแล ๑ นายดิดบุตรนายเนียมบ้านทาเสาแขวงเมืองลับแล ๑ นายหอมบตรอำแดง
                                                            ่
                      ป้อมบ้านท่าเสาแชวงเมืองลับแล ๑ นายทิม ๑ นายนาก ๑ นายสวม ๑ บ้านอยู่สิสะหาดแขวง
                      เมืองอุตะระดิฐ ๓ นายออกที่ปล้นมิศกอก ๑



                                                                      (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑, ๑๒๓๖, น. ๓๒)

               ๓. เอกสารด้านภาษา
                       ๓.๑ อักษรและภาษามอญ

                       ๓.๑.๑ ความเป็นมาของภาษามอญ
                       มอญเป็นชนชาติโบราณที่มีความเป็นมายิ่งใหญ่ ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ บันทึกเรื่องราวของชาน
               ชาติมอญไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง ณ แดนดินอันได้นามว่าแหลมอินโดจีนนี้ ในอดีตสมัยเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชน
               ชาติใช้ภาษามอญมาแล้ว หลักฐานดังกล่าวมีปรากฏอยู่ในศิลาจารึกซึ่งพบจากที่ตาง ๆ กัน นับแต่พุทธศตวรรษ
                                                                                 ่
               ที่ ๑๒ เป็นต้นมา อันได้แก่จารึกที่ผนังถ้ำนารายณ์ อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี จารึกขึ้น ในระหว่าง
               พุทธศตวรรษที่ ๑๒ จารึกบนเส่แปดเหลี่ยม พบที่ศาลสูง จังหวัดลพบุรี จารึกขึ้นในระหว่างพุทธศตวรรษท ๑๕
                                                                                                      ี่
                       ั
               จารึกหลงที่หลังพระพิมพ์ พบที่อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม จารึกในระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๕ และ
               จารึกลำพูน สมัยอาณาจักรหริภุญไชย จารึกขึ้นในระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๗ เป็นต้น
                       จากลักฐานที่ปรากฏในจารึกดังกล่าวข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นว่ามอญเป็นชนชาติที่อารยธรรมของตนเอง
                                                                                                     ู
               ซึ่งรวมตลอดไปถึงการรู้จักใช้ภาษาและอักษรที่เป็นมอญโดยเฉพาะด้วย แต่เนื่องจากความเป็นมอญได้สญสิ้น
               ไปนานแล้วนับร้อย ๆ ปีล่วงมาแล้ว จึงทำให้ชนชาติมอญในปัจจุบันมีสภาพเป็นเพียงชนกลุ่มน้อย ที่อาศัยอยู่ใน

               ประเทศต่าง ๆ แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ มีประเทศสหภาพพม่า และประเทศไทยเป็นต้น พร้อมกันนั้นก็
                                                     ี
                                                          ั
               ยอมรับวัฒนธรรมอารยธรรมของชนในชาติท่มอญต้งหลักแหล่งอยู่สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุทำให้ความเป็นมอญของ
               ชนชาติมอญลดน้อยลง โดยเฉพาะทางด้านภาษาและอักษรซึ่งในปัจจุบันนี้มีคนรู้น้อยมาก จะเห็นได้ว่าใน
               ประเทศไทยคนมอญรุ่นใหม่ พูดภาษามอญและอ่านหนังสือมอญไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้อยู่อีกสืบไปไม่นาน

               ภาษามอญจะปรากฏหลักฐานอยู่แตในหนังสือเท่านั้น ทำนองภาษาสันสกฤตซึ่งกลายจากภาษาที่พูดจากันมา
                                             ่
               เป็นภาษาที่มีอยู่แต่ในหนังสืออย่างเดียว
                       แบบเรียนภาษามอญที่เรียบเรียงขึ้นนี้ มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้สนใจสามารถนำมาใช้ศึกษาด้วยตนเอง
               ฉะนั้น นอกจากจะมีตัวอย่างรูปอักษรมอญแล้ว ยังแทรกคำอธิบายพร้อมทั้งคำอ่านออกสำเนียงประกอบไว้ด้วย



                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                         หน้า ๒๖
   507   508   509   510   511   512   513   514   515   516   517