Page 521 - เมืองลับแล(ง)
P. 521

๓.๓ อักษรธรรมล้านนา
                                                                                                   ื
                       อักษรธรรมล้านนา เป็นรูปอักษรแบบหนึ่งของภาคเหนือ นิยมเรียกว่า “ตัวเมือง” หรือหนังสอเมืองมี
               ลักษณะคล้ายกับอักษรมอญ อักษรพม่า และอักษรธรรมอีสาน ปรากฏในเอกสารโบราณประเภทคัมภีร์ใบลาน
               หนังสือสมุดไทย และจารึก เรื่องราวที่ใช้บันทึกส่วนใหญ่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา วรรณกรรมประเภทต่าง ๆ

               ตำรายา ตำราโหราศาสตร์ และกฎหมาย ปัจจุบันยังคงมีใช้อยู่หลายจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย
                              ๓.๓.๑ รูปสระ
                              รูปสระในอักษรธรรมล้านนาแบ่งออกเป็น ๓ พวก คือ

                                                                                                        ั
                                     ๓.๓.๑.๑ สระลอย คือ สระที่เป็นใหญ่ในตัวเองและออกเสียงได้โดยไม่ต้องอาศย
               พยัญชนะอื่น เมื่อนำไปใช้ในทีทั่วไปแล้ว รูปสระจะคงเป็นรูปเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง และใช้นำหน้าพยัญชนะ
               อื่นเสมอ มีทั้งหมด ๘ ตัว ดังนี้

                                     อ      อา  อิฯ        อีฯ    อุฯ    อูฯิ   เอฯ    โอ

                                     อะ     อา     อิ      อี     อุ     อู     เอ     โอ


                       ตัวอย่าง

                                     อ      เช่นคำว่า อรหํ        อ่านว่า อะระหัง



                                                                 (แบบเรียนหนังสือภาษาโบราณ, ๒๕๕๓ น. ๑๑๓)

                                     ๓.๓.๑.๒ สระจม หรือ สระผสม คือ สระที่ไม่เป็นใหญ่ในตัวเอง ต้องผสมกับ

               พยัญชนะจึงออกเสียงได้ตามพยัญชนะนั้น ๆ เหมือนสระในภาษาไทย มีทั้งหมด ๘ ตัว ดังนี้

                                     ะ      า      ิ       ิ      ิ  ิ   ิ  ิ

                                     อะ     อา     อิ      อี     อึ     อื     อุ     อู


                              ตัวอย่าง


                                     -ะ     เช่นคำว่า      ราค  อ่านว่า         ราคะ (ไม่ประวิสรรชนีย์)







                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                         หน้า ๓๕
   516   517   518   519   520   521   522   523   524   525   526