Page 800 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 800
ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ ได้ระบุถึง ทำเนียบหัวเมืองและผู้ครองเมืองมีดังนี้ “เมืองลับแลอยู่ดอน ๑
เมืองปากเหืองตอน ๑ เจ้าเมืองชื่อพระอณะพินาศ ๑ เมืองน้ำปาด ๑ เมืองสวางคบุรี ๑ รวมลำน้ำพิชัย ๓ เมือง
เมืองตรอนตรีศิลป์อยู่หนบูรพาสวางค์ ๑ เมืองบางโพ ๑ เมืองขุนกัน ๑ อยู่ลำน้ำพิชัยฝั่งตก ๒ ขึ้นเมืองพิชัย ๗ เมือง
เมืองพิพัฒนขึ้นพิชัย ๑ เมืองพิชัยเมืองตรี เจ้าเมืองชื่อ ออกญาศรีสุริยราชราชัยอภัยพิรยพาหะ นา ๓๐๐๐ ขึ้น
2
มหาดไทย ๑ เมืองพิมูล ขึ้นพิชัย ” สังเกตว่าในรายชื่อเมืองเหล่านี้เป็นเมืองในอาณัติการปกครองของเมืองพิชัย
และการกล่าวนามเมืองลับแลต่อเนื่องกับเมืองปากเหืองพร้อมระบุชื่อเจ้าเมืองชื่อพระอณะพินาศนั้น อาจสื่อให้เห็น
นัยความเชื่อมโยงของทั้งสองเมืองว่ามีเจ้าเมืองเป็นคนเดียวกัน
นายทหารชาวลับแลที่ไดขึ้นเป็นเจาเมืองปากเหืองคนแรกนี้ ควรหมายถึง พระลับแล คนที่ไปจับกุมเอาตว
้
้
ั
์
เจ้าอนุวงศไดที่เมืองพวนพร้อมกับพระยาแสนเมืองน่าน (ตามที่ปรากฏในเอกสารประชุมพงศาวดารภาคที่ ๑๐
้
เรื่องราชวงษปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน หน้า ๑๖๑) เพราะการณ์ครั้งนี้ถือเป็นความดีความชอบมาก ประกอบกับ
ที่พระลับแลนั้นไดเคยปกครองเมืองลับแล ซึ่งถือเป็นเมืองหน้าด่านของสยามอยู่แต่ก่อนแล้ว จึงทำให้ท่านเหมาะสม
้
ที่จะปกครองเมืองปากเหืองซึ่งเป็นเมืองด่านเช่นเดียวกัน ท่านจึงได้เป็นเจ้าเมืองปากเหืองคนแรก เมื่อพิจารณา
ราชทินนาม พระอนุพินาศ อนุ น่าจะมาจากคำว่า อนุวงศ์ ส่วนคำ พินาศ หมายถึง ความฉิบหายย่อยยับ หรือ
ความเสียหายย่อยยับ รวมแล้วราชทินนาม พระอนุพินาศ จึงหมายความถึง ผู้ที่ทำให้เจ้าอนุวงศ์ย่อยยับ นั่นเอง
อนึ่ง คำว่า ต้นสกุลเครือทองดในเอกสาร อาจหมายถึงว่า พระอนุพินาศ(กิ่ง) เป็นต้นสกุลของ พระยา
ี
ี
ศรีอัคร์ฮาด (ทองด) ซึ่งในทีสุดคือนามสกุล ศรีประเสริฐ
แต่เดิมเมืองเชียงคานขึ้นกับเมืองพิชัย มณฑลพิษณุโลก ต่อมาจึงย้ายมาอยู่กับสัดกัดจังหวัดเลย มณฑล
ี
อุดร ราวปี พ.ศ. ๒๔๕๔ แล้วยุบเมืองเชียงคานเป็นอำเภอมีพระศรีอัคร์ฮาด (ทองด) เป็นผู้ปกครอง รับราชการตอ
่
อีกสองปีก็ลาออกรับพระราชทานบำนาญจนถึงแก่กรรมในที่สุด
ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ. หน้า ๑๙๕.
2
พระลับแลในศึกเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ และร่องรอย เชลยลาวพุงดำ ลาวพุงขาว ในสมัยรัชกาลที่ ๓
~ หน้า ๑๙ ~