Page 12 - การพัฒนาการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาษาของคอมพิวเตอร์
P. 12
ิ
หนวยท1 ภาษาคอมพวเตอร์เบองต้น 6 หนวยท1 ภาษาคอมพวเตอร์เบองต้น 7
่
�
่
ี�
ื
�
ื
ี�
ิ
............................................................................................................................................................ ...........................................................................................................................................................
3.ยุคของภาษาโปรแกรม 3) ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 (Third Generation Language) ในยุคนี้ได้พัฒนารูปแบบภาษา
------------------------------------------------------------------ ให้มีความใกล้เคียงกับภาษาของมนุษย์ยิ่งขึ้น เรียกว่า ภาษาระดับสูง โดยนำากลุ่มคำาของภาษา
อังกฤษมาใช้เป็นรูปแบบของการเขียน ช่วยให้โปรแกรมภาษาในยุคนี้มีรูปแบบคำาสั่งที่ง่ายต่อการ
ภาษาคอมพิวเตอร์ ได้ถูกพัฒนามาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ยุคแรก การใช้ เรียนรู้และเข้าใจ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ เป็นรูปแบบเชิงกระบวนการ จะเขียนคำา
ภาษายังมีความใกล้เคียงกับภาษาเครื่องคอมพิวเตอร์มาก เรียกว่า ภาษาระดับต่ำา สั่งเป็นขั้นเป็นตอนเรียงลำาดับ โดยผู้เขียนจะต้องจดจำารูปแบบคำาสั่งต่าง ๆ จึงยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
(Low-level Language) แต่มีโครงสร้างและรูปแบบที่ยากต่อความเข้าใจของมนุษย์ ต่อ สำาหรับการเขียนโปรแกรม ตัวอย่างภาษาในยุคที่ 3 เช่น ภาษาซี ภาษาเบสิก ภาษาปาสกาล และ
มาได้พัฒนารูปแบบภาษาที่มีความใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ เรียกว่า ภาษาระดับสูง ภาษาฟอร์แทรน เป็นต้น ภาษาในยุคนี้จะมีตัวแปลภาษา 2 ประเภท คือ คอมไพเลอร์ (Compiler)
(High-level Language) สามารถจำาแนกยุคของภาษาคอมพิวเตอร์ได้ 5 ยุค ดังนี้
และอินเทอร์พรีเตอร์ (Interpreter)
1) ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 (First Generation Language) ในยุคนี้จะสั่งงาน 4) ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 4 (Fourth Generation Language) ภาษาในยุคที่ 3 มีความยุ่ง
คอมพิวเตอร์ด้วยภาษาเครื่อง เป็นภาษาที่สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง คำาสั่ง ยาก ซับซ้อน ในการออกแบบโปรแกรม จึงต้องการผู้ที่มีประสบการณ์สูงในการเขียนโปรแกรมเหล่า
ในภาษาเครื่องประกอบด้วยตัวเลขฐานสอง มี 0 กับ 1 เป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาณ นั้น เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ไม่เหมาะกับนักเขียนโปรแกรมมือใหม่ จึงมีการพัฒนา
ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นรูปแบบภาษาที่สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง จึงไม่ต้องมีตัว ภาษาคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่ เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะการเขียนที่ไม่เป็นลำาดับขั้นตอน
แปลภาษา การเขียนชุดคำาสั่งในยุคนี้นั้น จะมีความยุ่งยากในการเขียนเป็นอย่างยิ่ง ยุค หรือไม่มีรูปแบบที่แน่นอน เพียงหยิบเอาปุ่มคำาสั่งต่าง ๆ มาวาง ผู้เขียนโปรแกรมรู้เพียงว่าจะให้
นี้จัดอยู่ในกลุ่มภาษาระดับต่ำา
คอมพิวเตอร์ทำาอะไรบ้าง โดยไม่ต้องรู้ว่าทำาได้อย่างไร แต่เป็นหน้าที่ของภาษาคอมพิวเตอร์เหล่านั้น
มาจัดการแทน รูปแบบของภาษาคอมพิวเตอร์ยุคนี้ช่วยทำาให้การเขียนโปรแกรมทำาได้ง่าย สะดวก
2) ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 2 (Second Generation Language) พัฒนามาจากยุคที่1 และรวดเร็วขึ้น เรียกว่า ภาษาระดับสูงมาก (Very-high-level Language) ภาษาคอมพิวเตอร์ใน
เมื่อการเขียนคำาสั่งภาษาเครื่องทำาได้ยาก จึงได้พัฒนาโดยนำาสัญลักษณ์มาใช้แทน ยุคที่ 4 นี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำางานด้วยตนเอง แต่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อนำาไปใช้ทำางานร่วม
รูปแบบตัวเลขในภาษาเครื่อง เพื่อให้สามารถเขียนคำาสั่งได้ง่ายขึ้น ภาษาในยุดนี้ได้แก่ กับภาษาอื่น เช่น นำาภาษา SQL มาใช้ร่วมกับ ภาษา PHP เป็นต้น
ภาษาแอสเซมบลี แต่คอมพิวเตอร์ไม่เข้าใจความหมายของชุดคำาสั่งที่เขียนขึ้นด้วยรูป
แบบภาษาแอสเซมบลี จึงต้องมีตัวแปลภาษา เรียกว่า แอสเซมเบลอร์ เพื่อช่วยแปลคำา 5) ภาษาคอมพิวเตอร์ยุคที่ 5 (Fifth Generation Language) ภาษาคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 5
สั่งภาษาแอสเซมบลีให้เป็นภาษาเครื่อง เพื่อให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ ยุคนี้ก็ยังจัดอยู่ใน นี้ มีความใกล้เคียงกับภาษามนุษย์มากยิ่งขึ้น เรียกว่า ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) ผู้
กลุ่มภาษาระดับต่ำา ใช้สามารถสั่งงานด้วยเสียง เป็นการนำาระบบฐานความรู้มาช่วย โดยจะแปลความของคำาสั่งเพื่อ
ทำาให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและจำาโครงสร้างของคำาสั่งเหล่านั้นไว้ ภาษาธรรมชาตินี้จะนำาไปประยุกต์
ใช้กับระบบผู้เชี่ยวชาญ และระบบปัญญาประดิษฐ์ เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความสามารถใน
การทำางานเหมือนมนุษย์ และสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ การใช้เสียงเป็นรหัสผ่านในการสั่งให้
โปรแกรมที่กำาหนดไว้เริ่มทำางาน เป็นต้น
