Page 12 - 1
P. 12
มันก็คือความไม่สําเร็จนั่นเอง ทําไมล่ะ พุทธศาสนาบอกกันแล้วว่า ใครจะประพฤติปฏิบัติถ้าเราศรัทธาก็เข้ามาเรามีความเชื่อแล้ว เรา จะไปนึกโน่นนึกนี่นึกนั่นทําไม มีหน้าที่ปฏิบัติก็ปฏิบัติไปถ้าเราทํา อย่างคนโง่ๆ เขาบอกให้ทําก็ทํา ไม่ต้องไปคิด ไม่ต้องไปนึกอะไร อย่างนี้รับรองว่าผลออก
๗.ความเกี่ยวผูกพันตา่งๆในการปฏิบัติ ในการเจริญ สมาธิ พอปฏิบัติไปได้หน่อย อาจารย์โน้นบอกอย่างนี้ อาจารย์นี้บอก อย่างนั้นมันเป็นอย่างนั้นเสียหายเลยอยู่แค่นั้นรับรองไม่ตอ้งไปตอ่
๘.ความอยากได้ในสิ่งนั้นอยากไดอ้ะไรถ้าเราจะทําอา นาปานสติ ก็อยากให้มันได้เร็วๆ มันจะเร็วหรือมันจะช้า อยู่ที่อินทรีย์ ความแก่กล้าของอินทรีย์ของเรา ถ้าอินทรีย์ไม่แก่กล้า มันจะสําเร็จ ได้อย่างไร ดังนั้นถึงได้บอกว่าไม่ใช่สัมมาสมาธนิ่ะไมใ่ชว่า่ทํากนัได้ ทกุ ๆคน ถา้ ทําไมถ่ กู มนั ทําไมไ่ ดห้ รอก กก็ ลายเปน็
ผู้วิเศษ เห็นโน่น เห็นนี่ เห็นนั่นไปเลย
๙. ความทะนงตนในการประพฤติปฏิบัตวิ่าตนดีกว่าคน อื่น เริ่มปฏิบัติมาพรอ้มๆกันตนก้าวไปไกลข้างหน้าคนอื่นยังตาม หลังทะนงตนเสียแล้วพังเพราะเหตุไรเพราะตัวนี้เปน็กามฉันท นิวรณ์มันเปน็ตัวกิเลสแต่เราก็ไม่รู้ เราภูมิใจเลย คิดว่าเราวิเศษ แน่แท้แลว้ คนอื่นสู้ไมไ่ด้
๑๐. ความยดึ มนั่ ในการปฏบิ ตั นิ นั้ ๆ โดยไมไ่ ดใ้ ชป้ ญั ญา ไตร่ตรองด้วยเหตุด้วยผล ผู้ให้การฝึก ให้ได้ แนะได้เฉพาะในเรื่อง ของหลักการ แต่เทคนิคในตัวบุคคลแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้น จึงต้องมีปัญญาเข้ามาประกอบ ปัญญาในขั้นต้นเรียกว่าสัมปชัญญะ