Page 43 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 43

จักรวาล แม้สัตว์ที่อยู่ใน ๓ ภพ และที่สุดอเวจีมหานรก ยังได้รับความสุขเมื่อแว่วเสียงสวดมนต์ผ่าน

                                                                               ั้
               ลงไปแม้ครู่หนึ่งหรือขณะหนึ่ง ก็ยังดีกว่าหาความสุขไม่ได้เลย นี่ท่านทงหลายลองคิดดูซิว่า การสวด
               มนต์มีอานุภาพขนาดไหน  แผ่ไปได้แสนจักรวาล  ไม่ใช่เสียงสวดมนต์ที่เราว่า  แต่เป็นกระแสจิต

               จะต้องรวมตัวก็เยอะ ๆ เมื่อรวมกันเยอะ ๆ มันจึงมีพลานุภาพ

                            ี่
                     อย่างทเมื่อวานฝนตก  เรียกว่าตกอย่างหนักเลย  เมื่อตกอย่างหนักมันก็ท าให้เน็ตมันก็ล้มบ้าง
                                                                       ี่
                                                               ั้
               มันก็เสียหายบ้าง  ก็เลยติดขัด  ต้องขออภัยที่ท่านทงหลายทได้ติดตามทางออนไลน์  อาจจะติดขัด
               บ้าง  วันนี้ก็ตั้งใจว่าจะสวดไม่เร็ว  มีหลายท่านคอมเม้นต์มาว่าพระคุณเจ้าสวดเหมือนไปดาวอังคาร

               อย่างนั้น เอาละไม่ไปดาวอังคารแล้วจะไปดาวพระจันทร์ วันนี้จะลดระดับลงมา ไม่สวดเร็วเหมือน

                             ่
               เมื่อก่อนแล้ว ทานที่สวดใหม่ ๆ ก็แน่นอนสวดไม่ทัน ถ้าหากว่าสวดประจ าอย่างนี้จิ๊บจ๊อย ๆ ที่วัดฉัน
               สวดเร็วกว่านี้ว่าไปอีก เกทับไปอีก บางท่านเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น เราก็จะพยายามสวดให้อยู่

               ในระดับกลาง ๆ ไม่เร็วเกินไปและไม่ช้าเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องสวดบ่อย ๆ การสวดบ่อย ๆ ก็


                                                                                       ่
               จะท าให้อักขระหรือทานองที่เราสวดเหมือนจะเข้าไปอยู่ในจิตของเรา  อย่างเชนเราขึ้นบทพุทธคุณ
               “อิติปิโส ภควา” ขึ้นปั๊ปเรารู้ท านองเลยทันท เราก็สวดไปได้เรื่อย ๆ อันนี้มันอยู่ในจิตของเราแล้ว
                                                         ี
               สวดเมื่อไหร่ก็ได้

                     การสวดมนต์ก็ถือว่าเป็นการรักษาพระพุทธมนต์ของพระพุทธเจ้าเอาไว้  เมื่อรักษาไว้ก็ไม่ใช่

                                            ี่
               รักษาแต่อยู่ในต ารา  รักษาอยู่ทใจของเราด้วยพุทธมนต์เข้าไปสู่ในใจของเรา  เมื่อไหร่นั่นแหละก็จะ
               ไปขัดใจของเรา เมื่อขัดใจของเราดีแล้ว ใจของเราก็จะใส เรียกว่าใจรู้ ใจตื่น ใจเบิกบาน แต่ถ้าใจไม่

               ใส ใจไม่รู้ ใจไม่ตื่น มันก็เศร้า ที่นี้พอเศร้าแล้ว มันจะตื่นไม่ได้ มันจะเบิกบานไม่ได้ มันจะเหงา มัน

               จะซึม มันจะหดหู่ มันจะท้อแท้ โอ้เบื่อเหลือเกิน ค านี้จะออกมาแล้ว นั่นหมายความว่าพลังจิตส่วน

               ด าก าลังจะเข้าสู่จิตของเรา เพราะฉะนั้น เราต้องสรางพลังด าให้น้อย ๆ ต้องสร้างพลังใสหรือจิตใส
                                                               ้
               ให้มันมาก ๆ อย่างพระท่านบอกว่า “จิตใสมันเป็นบุญ จิตขุ่นมันเป็นบาป” เราต้องรวมกันสร้างพลัง

                                                                             ่
               จิตดี ๆ หรือว่าพลังจิตบวกให้มาก ๆ ถ้าเราสร้างพลังจิตบวกมากเทาไหร่ ความดีก็เกิดขึ้น
                                                                               ี่
                     อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ดร.มาซารุ อิโมโต้ เขาวิจัยเรื่องน้ า ในทสุดก็รู้ว่าการสวดมนต์นี่ท าให้
               โมเลกุลของน้ าในร่างกายของเราเรียงตัวหนาแน่นและก็ออกมาสวยด้วย  เขาพิสูจน์แล้วว่าการพูด

               เพราะ  ๆ  โดยเฉพาะค าพูดของพระพุทธเจ้าหรือพระด ารัสของพระพุทธเจา  ทออกจากพระโอษฐ์
                                                                                    ้
                                                                                         ี่
               ของพระองค์ เป็นพระโอษฐ์หรือวาพระทัยที่บริสุทธิ์ มีแต่ปรารถนาดีต่อสรรพสตว์ล้วน ๆ ไม่มีอคติ
                                                                                        ั
                                              ่
               แม้แต่นิดเดียว  ไม่ได้คิดทจะท าร้ายใคร  มีแต่ความปรารถนาดี  อยากจะให้คนอื่น  ๆ  พ้นทุกข์
                                        ี่
                                                               ี
                                                                               ุ
               เพราะฉะนั้น พระทัยของพระพุทธเจ้าจึงบริสุทธิ์ เรยกว่า “พระบริสทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ”

                                                           ๔๓
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48