Page 56 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 56

ธรรมะบรรยาย

                 ๐๑๙

                                                                  ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
                ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔




                     เจริญพรทุก ๆ ท่าน วันนี้ก็เช่นเคย ทางคณะสงฆ์วัดเทพเจติยาจารย์และอุบาสก อุบาสิกาของ

               วัดเทพ ได้เชิญทุกท่านเข้าร่วมสวดรัตนปริตร เพราะการสวดรัตนปริตรนี้ เราต้องอาศัยจิตบริสุทธิ์

               และก็ต้องชวนเชิญกันสวดเยอะ ๆ เพื่อจะได้เกิดพลังบวกมาก ๆ เราสวดกันอยู่ที่นี้มีคนเป็นร้อยเป็น

               พันถือว่าเป็นปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่      ถ้าหากว่าเราเชิญชวนคนมาสวดได้ถือว่าเป็นบุญของเรา

               ในขณะที่เราสวดนั้น จิตของเราจะตั้งมั่นในบทสวดเป็นสมาธิก็ผลิตพลังจิต เมื่อผลิตพลังจิต พลังจิต

               ฝ่ายบวกยิ่งเยอะเท่าไรยิ่งดี  เราเปรียบเทียบไม่ได้กับสมัยพระพุทธเจ้า  เพราะว่าพระพุทธเจ้าเป็น

               ศาสดาเอกของโลก แล้วเหล่าพระอรหันต์ ๕๐๐ รูปก็ไม่ใช่ธรรมดา พลานุภาพในครั้งนั้นก็ยิ่งใหญ่

               หนำซ้ำเทพเจ้าทั้งหลาย ท้าวสักกะเทวราช ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ เหล่าเทวดาทั้งหลายก็มาเข้าเฝ้า

               พระพุทธเจ้าตามศรัทธา เหล่าอมนุษย์ทั้งหลาย ภูตผีปีศาจก็ทนอยู่ไม่ได้ ก็เหมือนกับราชาเสด็จไปที่

               ไหนก็ต้องมีเหล่าอารักขาตามเสด็จ  ประธานาธิบดีที่จะไปเมืองไหน  ๆ  ก็ต้องไปสำรวจไปเซอร์เวย์

               ก่อน  เพื่อป้องกันให้สถานที่นั้นปลอดภัยจากโจรผู้ร้าย  เช่นเดียวกันในครั้งพุทธกาล  พระพุทธเจ้า

                  ็
               เปนพระบรมครูผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  เพราะฉะนั้น  เทวดาทั้งหลายก็เป็นลูก
               ศิษย์ของพระพุทธเจ้าหรือเป็นสาวกพระพุทธเจ้า  เมื่อทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จไปที่ไหน

               เหล่าเทวดา ท้าวจตุโลกบาลทั้ง  ๔ ท้าวพระอินทร์  ท้าวสักกะเทวราชก็จะตามเสด็จไปเข้าเฝ้าด้วย

                                 ่
               เพื่ออารักขา หรือวาเพื่อแสดงความเคารพกตัญญูในพระพุทธเจ้า
                     ด้วยเหตุนี้  เวลาเราสวดมนต์ทุกครั้ง  เราก็จะอัญเชิญเหล่ากายทิพย์ทั้งหลาย  ท้าวสักกะ

               เทวราช พระอินทร์ พระยายมราช ยักษ์ นาค ครุฑ คนธรรพ์ พวกอมนุษย์ทั้งหลายให้มาฟัง เพื่อให้

               มีจิตเมตตา ปรารถนาดีต่อกัน ไม่คิดร้าย ไม่มุ่งร้าย ไม่คิดจะอาฆาตพยาบาทจองเวร เพราะว่าเวรจะ

               ระงับได้ด้วยการไม่จองเวร การด่าตอบ การด่าไปมา ๆ ตีไปตีมา ๆ ด่ากันไปด่ากันมา ทะเลาะกันไป

               ทะเลาะกันมา  มันก็ไม่สิ้นสุด  มีแต่สร้างเวรกรรมเกิดการอาฆาตพยาบาทกัน  จองเวรไม่รู้จักจบสิ้น

               พระพุทธเจ้าจึงตรัสวา “เวรจะระงับได้ด้วยการไม่จองเวร” เพราะฉะนั้น เอาความบริสุทธิ์ไปสวดที่
                                   ่
                          ี
               เมืองเวสาล “พุทธรัตนะ” คือ ความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า “ธรรมรัตนะ” คือ ธรรมะอันบริสุทธิ์
               ของพระพุทธเจ้า “สังฆรัตนะ” คือ ความบริสุทธิ์ของพระสงฆ์ ล้วนแล้วแต่มีจิตปรารถนาดี ไม่ได้คิด



                                                           ๕๖
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61