Page 10 - งานสัตว์ป่า ณัฐกฤตา
P. 10

ควำยป่ำ




               เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยำศำสตร์ว่ำ Bubalus arnee มีลักษณะคล้ำยควำย

               บ้ำน (B. bubalis) ที่อยู่ในสกุลเดียวกัน แต่ควำยป่ำแต่มีล ำตัวขนำดล ำตัวใหญ่กว่ำ มีนิสัย
               ว่องไวและดุร้ำยกว่ำควำยบ้ำนมำก สีล ำตัวโดยทั่วไปเป็นสีเทำหรือสีน้ ำตำลด ำ ขำทั้ง 4 สีขำวแก่

               หรือสีเทำคล้ำยใส่ถุงเท้ำสีขำว ด้ำนล่ำงของล ำตัวเป็นลำยสีขำวรูปตัววี (V) ควำยป่ำมีเขำทั้ง 2

               เพศ เขำมีขนำดใหญ่กว่ำควำยบ้ำนมำก วงเขำกำงออกกว้ำงโค้งไปทำงด้ำนหลัง ด้ำนตัดขวำงเป็น

               รูปสำมเหลี่ยม ปลำยเขำเรียวแหลม ตัวโตเต็มวัยมีควำมสูงที่ไหล่เกือบ 2 เมตร ควำมยำวหัวและ

               ล ำตัว 2.40–2.80 เมตร ควำมยำวหำง 60–85 เซนติเมตร น้ ำหนักมำกกว่ำ 1,000 กิโลกรัม




               มีกำรกระจำยพันธุ์จำกประเทศเนปำลและอินเดีย ไปสิ้นสุดทำงด้ำนทิศตะวันออกที่ประเทศ
               เวียดนำม ในประเทศไทยในอดีตเคยมีอยู่มำกและกระจัดกระจำยออกไป โดยพบมำกที่บ้ำนลำน

               ควำย หรือบ้ำนลำนกระบือ (ปัจจุบัน คือ อ ำเภอลำนกระบือ จังหวัดก ำแพงเพชร) แต่สถำนะใน

               ปัจจุบันเหลืออยู่แค่ในเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำห้วยขำแข้ง จังหวัดอุทัยธำนี เท่ำนั้น ประชำกรใน
               ปัจจุบันมีประมำณ 3,400 ตัว ในจ ำนวนนี้มี 3,100 ตัว (91%) อำศัยอยู่ในประเทศอินเดีย

               โดยเฉพำะในรัฐอัสสัม[2] และมีควำมเป็นไปได้มำกที่สุดว่ำควำมป่ำเป็นบรรพบุรุษของควำยบ้ำน[


               หำกินในเวลำเช้ำและเวลำเย็น อำหำรได้แก่ พวกใบไม้ หญ้ำ และหน่อไม้ หลังจำกกินอำหำรอิ่ม
               แล้ว ควำยป่ำจะนอนเคี้ยวเอื้องตำมพุ่มไม้ หรือนอนแช่ปลักโคลนตอนช่วงกลำงวัน ควำยป่ำจะอยู่

               ร่วมกันเป็นฝูง ฤดูผสมพันธุ์อยู่รำว ๆ เดือนตุลำคมและพฤศจิกำยน ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้อง

               นำน 10 เดือน ควำยป่ำมีนิสัยดุร้ำยโดยเฉพำะตัวผู้และตัวเมียที่มีลูกอ่อน เมื่อพบศัตรูจะตีวงเข้ำ
               ป้องกันลูกอ่อนเอำไว้ มีอำยุยืนประมำณ 20–25 ปี โดยควำยป่ำมักตกเป็นอำหำรของสัตว์กิน

               เนื้อ โดยเฉพำะเสือโคร่ง ในอินเดีย ควำยป่ำมักอำศัยอยู่ร่วมในพื้นที่เดียวกับแรดอินเดีย ซึ่งเป็น

               สัตว์ดุร้ำย แม้จะเป็นสัตว์กินพืชเหมือนกัน แต่ก็มักถูกแรดอินเดียท ำร้ำยอยู่เสมอ ๆ จนเป็น
               บำดแผลปรำกฏตำมร่ำงกำย


               สถำนภำพในประเทศไทย ปัจจุบันเป็นสัตว์ป่ำสงวนตำมพระรำชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์

               ป่ำแห่งชำติ
   5   6   7   8   9   10