Page 3 - โมเมนตัมและการชน
P. 3
แต่เมื่อปล่อยไข่กระทบกับฟองน้ำ การดลที่เกิดต่อไข่มีค่าเท่าเดิมดังพื้นที่ใต้กราฟ ข. ซึ่งจะเท่ากับพื้นท ี่
ุ
ู
ใต้กราฟ ก. แต่ช่วงเวลาในการตกกระทบจะมากขึ้นเนื่องจากฟองน้ำมีความยืดหยุ่น ดังนั้น แรงสงสดจะขนาด
เล็กลงไข่จึงไม่แตก
⃑
จากกราฟ ก. จะเห็นว่าขนาดของแรงที่พื้นกระทำต่อไข่มีค่าไม่คงตัว แต่จากสมการ = ∆
⃑
ขนาดของแรง จะต้องเป็นค่าคงตัวค่าหนึ่ง ซึ่งจะเขียนกราฟได้ ดังรูป 6.10
โดยพื้นที่ใต้กราฟ จะเท่ากับพื้นที่ใต้กราฟ ก. ใน รูป 6.9 ซึ่งขนาดของแรง เรียกว่า ขนาด
ของแรงเฉลี่ยในช่วง ∆
1
⃑
⃑
ี
กรณที่แรงกระทำต่อวัตถุในช่วงเวลาสั้น ๆ เราสามารถหาแรงดลได้จากสมการ = ∆ แรงดล
ที่ได้ถือว่าเป็น แรงดลเฉลี่ย
• การชน
1. การชนในหนึ่งมิติ (collisions in onedirection)
เป็นการชนในแนวตรง วัตถุทั้งสองอยู่ในแนวเส้นตรงเดยวกันทั้งก่อนชนและหลังชน นอกจากจะมี
ี
การถ่ายโอนโมเมนตัมระหว่างกันแล้วยังมีการถ่ายโอนพลังงานจลน์ระหว่างกันด้วย
โมเมนตัมของระบบมีค่าคงตัว แต่พลังงานจลน์ของระบบจะมีค่าคงตัวหรือมีค่าไม่คงตัวก็ไดการชน
้
ที่ผลรวมของพลังงานจลน์ของระบบมีค่าคงตัว เรียกว่า การชนแบบยืดหยุ่น (elastic collision) การชนท ี่
พลังงานจลน์ของระบบมีค่าไม่คงตัว เรียกว่า การชนแบบไม่ยืดหยุ่น (inelastic collision)
2. กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม
ผลรวมของโมเมนตัมก่อนชนของระบบเท่ากับผลรวมของโมเมนตัมหลังชนของระบบ เมื่อไม่มีแรง
ภายนอกมากระทำ เป็นไปตามกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม (law of conservative of momentum) ซึ่ง
หมายถึง โมเมนตัมรวมของระบบมีค่าคงตัว
การชนโดยทั่วไปเป็นการชนแบบไม่ยืดหยุ่น ซึ่งมีการสูญเสียพลังงานจลน์โดยพลังงานจลน์จะ
เปลี่ยนไปเป็นพลังงานอื่น ๆ ถ้าหากมีการสูญเสียพลังงานจลน์มากที่สุด วัตถุทั้งสองจะติดกัน