Page 9 - 50 ปี พุทธศิลป์ ธ.ก.ส.
P. 9

õð »Õ3⁄4Ø·¸ÈÔÅ»ì ¸.¡.Ê.
ตํานานพุทธศิลป์
“ยุคเริ่มต้นธนาคารของชาวชนบทไทย” ๒๕๐๙-๒๕๒๐
เป็นช่วงเวลาของการบุกเบิกการเข้าถึงพื้นที่ ต่างๆในชนบท ซึ่งหลายแห่งยังเป็นพื้นที่กันดารมาก บางพื้นที่ก็เป็นพ้ืนเสี่ยงภัย มีการกําหนดระดับความ เสี่ยงมากสีแดงหรือสีชมพู ที่สมัยนั้นเรียกกันว่าเป็น พื้นที่ท่ีมีกลุ่มคอมมิวนิสต์
ปัญหาการเดินทางเพื่อไปเข้าถึงชาวบ้านในสมัย นั้นจึงลําบากทั้งถนนหนทางที่ไม่ได้สะดวกเช่นทุกวันนี้ และมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยมากมาย การท่ีจะ ไปให้ถึงทุกบ้านเรือนไม่ใช่แค่การไปดูให้เห็นกับตาถึง ความเป็นอยู่ที่แท้จริงของชาวบ้านเท่านั้น แต่คงเป็น กุศโลบายที่ลึกซึ้งว่าต้องเข้าไปสร้างความเชื่อใจและ ความไว้วางใจกับชาวบ้าน ดังนั้นแนวการสะสมพระ เครื่องส่วนใหญ่ของพนักงานสมัยนั้นจึงมักจะเน้นไป ในทางแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆและ เชิงเมตตามหานิยมให้สามารถเข้าถึงผู้หลักผู้ใหญ่และ ชาวบ้านเป็นหลัก
การมีพระจึงนิยมไปในแนวนั้น พนักงานจึง “หา ของดีมาไว้คู่กาย” เป็นสําคัญเพื่อให้สามารถปกป้อง
คุ้มครองภัย แคล้วคลาด คงกระพัน ยิงฟันไม่เข้า พระเครื่องส่วนใหญ่จึงเป็นพระที่มักจะมีการสร้างอยู่ แล้วเป็นหลัก
เท่าที่ค้นดูจึงยังมิได้มีการสร้างพระหรือสิ่ง มงคลใดๆข้ึนมาเอง การท่ีจะมี “พระสายหลัก” ของ ธ.ก.ส จึงน่าจะยากนัก ประกอบกับสมัยนั้นค่อนข้าง เข้มงวดและระมัดระวังตัวเพื่อมิให้ถูกมองไปในทาง เบียดเบียนชาวบ้านหรือแสวงหาผลประโยชน์ใดๆ
คนในยุคนี้จึงเป็นคนที่มักจะมีของดีจากพระเกจิ อาจารย์ดังๆ ที่อาจจะหลงเหลือตกทอดกันมาอยู่ บ้าง ก็มักจะเป็นวงแคบๆเฉพาะคนชอบพอกันเป็น พิเศษเท่านั้น เข้าตําราที่ว่าถ้าไม่ถึงข้ันรักและชอบพอ กันจริงๆก็คงไม่ให้ของดีไปดูแลกัน ดังน้ันส่วนใหญ่ จะเก็บไว้บูชาเอง เราจึงไม่ค่อยเห็นกันมากนัก
วงการพระเครื่อง ธ.ก.ส. สมัยนั้นจึงเน้น “ประสบการณ”์ กันเป็นหลัก ป่านนี้คงอยู่กับลูกๆ หลานๆกันและบางเหรียญบางองค์เทียบชั้นในวงการ ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสุดยอดพระเครื่องชั้นสูง..ตั้งแต่ พระสมเด็จ ตลอดจนชุดเบญจภาคี เร่ือยมา หลวง ปู่ทวด พระนางพญา พระขุนแผน บรรดาพระปิดตา
9


































































































   7   8   9   10   11