Page 3 - Orchem สมบูรณ์
P. 3
โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง เรอง เคมีอินทรีย์
ื่
ปัจจุบันนักเคมีได้สังเคราะห์สารอินทรีย์ได้อย่างมากมาย และยังก่อให้เกิดอุตสาหกรรมทางด้านเคมี
อีกด้วย การศึกษาสารเหล่านี้จำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี นอกจากนี้ในการศึกษาเพื่อให้ เข้าใจถึงสมบัติ
ี
ของสารอินทรีย์ได้อย่างลึกซึ้ง จะต้องเข้าใจพันธะที่เกิดระหว่างอะตอม และรูปร่างของโมเลกุลอกด้วย
1. พันธะของคาร์บอน
คาร์บอนเป็นธาตุที่อยู่ในหมู่ 4A มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 4 จึงสามารถเกิดพันธะโคเวเลนซ์ได้
ทั้งหมด 4 พันธะ โดย C สามารถใช้อิเล็กตรอนร่วมกันได้ตั้งแต่ 1 คู่ 2 คู่ หรือ 3 คู่ เกิดเป็น พันธะเดี่ยว (single
bond) พันธะคู่ (double bond) หรือพันธะสาม (triple bond) ดังแสดง
C C
C
C
พันธะเดี่ยว พันธะเดี่ยว 2 พันธะ พันธะคู่ 2 พันธะ พันธะเดี่ยว 1 พันธะ
ทั้งหมด 4 พันธะ และพันธะคู่ 1 พันธะ และพันธะสาม 1 พันธะ
2. ไฮบริไดเซชันกับสารประกอบอินทรีย์
ั
ิ
สารอินทรีย์เป็นสารโคเวเลนซ์ที่มีรูปร่างต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับการสร้างพนธะของคาร์บอน การพจารณาว่า
สารอินทรีย์มีโครงสร้างอย่างไรต้องอาศัยทฤษฎีไฮบริไดเซชันเข้าช่วยในการอธิบายโครงสร้างดังกล่าว ซึ่งทฤษฎี
ไฮบริไดเซชันเป็นทฤษฎีที่ช่วยอธิบายการเกิดพันธะของสารประกอบอินทรีย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถอธิบาย
3
2
การเกิดรูปร่างของคาร์บอนได้ ชนิดของไฮบริไดเซชันที่เกิดกับสารอินทรีย์ได้แก่ sp sp และ sp
ทบทวนความรู้
การซ้อนเหลื่อม (over lap) มี 2 ประเภท คือ
1. พันธะซิกมา (σ–bond) หรือเรียกว่า แบบหัวชนหัว เช่น
+
+
2. พันธะไพ ( –bond) หรือเรียกว่า แบบข้างชนข้าง
+
Organic Chemistry By Kru Nachamon 2