Page 56 - หนังสือประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ 2568 ครั้งที่ 25
P. 56
การพ้ฒนารูปแบบการบำบ้ดฟ้นฟูผูู้้ใชุ้ยาเสพติิดโดยกระบวนการม่ส่วนร่วมของชุุมชน
อำเภอเชุ่ยงยืน จัังห่วิ้ดมหาสารคาม
สุจิตรา ยะวร พย.ม.
1, ประดิพัทธิ สวั่างโศก ส.บ.
1, ชยพล ยะวร ส.ด.2
1โรงพยาบาลเชียงยืน
2สถานีอนามืัยเฉลิมพระเกียรติิ 60 พรรษา นวัมืินทราชินี
บที่ค้ดย่อ
ความสำค้ญ
ประเทศไทยและอำเภอเชียงยืนยังคงประสบ้ปัญหายาเสพติิดทีส่งผลกระทบ้ติ่อสาธารณ์สุข สังคัมื
และเศรษฐกิจ จ่งจำเป็นติ้องบำบ้ัดผ่้เสพและติิดตามืช่วยเหลืออย่างติ่อเนือง โดยอาศัยคัวัามืร่วัมืมืือจากทุกภาคัส่วน
อย่างไรก็ตาม อำเภอเชียงยืนยังขาดร่ปแบ้บ้การบำบ้ัดทีเหมาะสมืกับ้บ้ริบทพืนที ส่งผลให้การบำบ้ัดยังไมื่บรรลุเป้าหมาย
เท่าทีคัวัร จ่งเป็นทีมาของการดำเนินการวัิจัยคัรังนี
วิ้ติถุประสงค์ เพือพัฒนาร่ปแบ้บ้การบำบ้ัดและฟื้้นฟื้่ผ่้ป่วยยาเสพติิดโดยการมืีส่วนร่วัมืของชุมชน และศ่กษาผลของร่ปแบ้บ้
การบำบ้ัดและฟื้้นฟื้่ผ่้ป่วยยาเสพติิดโดยการมืีส่วนร่วัมืของชุมชน อำเภอเชียงยืน จังหวััดมหาสารคาม
วิิธ่การศึกษา
การวัิจัยนีเป็นการวัิจัยเชิงปฏิิบ้ัติิการแบ้บ้มืีส่วนร่วัมื เพือพัฒนาร่ปแบ้บ้การบำบ้ัดฟื้้นฟื้่ผ่้ใช้สารเสพติิดโดยการ
มืีส่วนร่วัมืของชุมชน โดยใช้เทคันิค A-I-C กับ้ผ่้มืีส่วนได้ส่วนเสียทีคััดเลือกแบ้บ้เจาะจงจำนวน 53 คน เคัรืองมืือทีใช้
ได้แก่ แบ้บ้สอบ้ถีาม แบ้บ้ติรวจวััดการใช้ยาเสพติิด (V.2) แบ้บ้บ้ันท่กการสังเกต สัมืภูาษณ์์เชิงล่กและกิจกรรมกลุ่มื
วัิเคราะห์ข้อมื่ลทัวไปด้วยสถีิติิเชิงพรรณนา ข้อมื่ลการเลิกเสพยาเสพติิดใช้สถีิติิ Paired Sample Test และการสร้าง
การมืีส่วนร่วัมืใช้การวัิเคราะห์เนือหา
ผลการศึกษา
การสร้างการมืีส่วนร่วัมืของแกนนำชุมชนพบ้วั่า ชุมชนตระหนักถี่งปัญหายาเสพติิดและติ้องการมืีส่วนร่วัมื
ในการแก้ไข โดยดำเนินการตาม 4 ขันตอน ได้แก่ 1) เติรียมืชุมชน 2) คั้นหาและคััดกรอง 3) คัืนข้อมื่ลและ
วางแผนร่วัมืกับ้ภูาคัีเคัรือข่าย 4) แลกเปลียนเรียนร่้และถอดบทเรียน ดำเนินกิจกรรมฟื้้นฟื้่ติามโปรแกรม FEWS
To Home 6 กิจกรรม เป็นเวลา 12 สัปดาห์ คัือ 1) สร้างติ้นแบ้บ้คัรอบ้คัรัวอบ้อุ่น 2) ให้ภู่มืิคัุ้มืกัน ฝึึกทักษะชีวัิต
3) การฝึึกอาชีพสร้างรายได้ 4) การติิดตามืช่วยเหลือการสนับสนุนทางสังคัมื 5) สร้างเสริมืกิจกรรมชมรมสร้างสรรคั์คนดี และ 6) เยียมบ้้านเยียมใจช่วยเหลือแบ้่งปัน ในกลุ่มืผ่้ใช้ยาเสพติิด 104 คน ผลพบ้วั่าร้อยละ 83.17 ไมื่กลับไปใช้ ยาเสพติิดซึ่ำร้อยละ 96.38 ได้รับการบำบ้ัดทีเหมาะสม และร้อยละ 92.68 ได้รับการติิดตามืช่วยเหลือทางสังคัมื
44

