Page 72 - TEMCA Magazine Issue 1 Volume 32 (May-Jul2025)
P. 72
หลังจากที่มีการอบรมหลักสูตร Basic รุ่นแรก
ผ่านไป คณะวิทยากรได้เห็นถึงความสนใจของ
วิศวกรในระบบก๊าซทางการแพทย์ จึงมีความ
คิดริเริ่มที่จะจัดทำคณะบุคคลที่ประกอบด้วยผู้
แทนจาก 3 หน่วยงานคือว่า ราชวิทยาลัยวิสัญญี
แพทย์แห่งประเทศไทย กรมสนับสนุนบริการ
สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขและวิศวกรรม
สถานแห่งประเทศไทยฯ เนื่ องจากทั้งสาม
หน่วยงานมีความเห็นตรงกันว่า ระบบก๊าซทาง
การแพทย์เป็ นระบบที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษา
พยาบาล หากมีการพัฒนาบุคคลกรที่เกี่ยวข้อง
จะเป็ นการยกระดับมาตรฐานและคุณภาพใน
การให้บริการทางสาธารณสุขแก่ประชาชนทั่ว
ไป ระหว่างนั้นได้มีการประชุมร่วมกันหลายครั้ง
ในการวางแนวทางการพัฒนาองค์ความรู้ การ
ฝึ กอบรมและการเผยแพร่ไปสู่บุคลากรทั้งใน
วงการแพทย์-พยาบาลและบุคคลที่สนใจทั่วไป
จึงมีดำริที่จะจัดการลงนามข้อตกลงความร่วม
มือเพื่ อให้การดำเนินการสัมฤทธิ์ผลกว่าการ
แยกกันพัฒนา และได้มีการลงนามข้อตกลง
ความร่วมมือทางวิชาการด้านวิชาชีพวิศวกรรม
และการบริการด้านระบบก๊าซทางการแพทย์
ขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ในงานสัปดาห์
วิศวกรรมแห่งชาติ
ขอกลับมาเล่าเรื่องการอบรมต่อนะครับ ใน
ปี 2568 นี้จะมีการอบรมหลักสูตรระดับ Advance
เป็ นรุ่นแรก โดยผู้ที่จะเข้าอบรมหลักสูตรนี้ได้ จะ
ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรความรู้ทั่วไปเรื่อง
ระบบก๊าซทางการแพทย์ (การออกแบบ การดูแล
รักษา และการตรวจสอบ) หรือหลักสูตรอื่นๆ ที่
เทียบเท่าซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการ
ความร่วมมือด้านระบบก๊าซทางการแพทย์แล้ว
จึงจะสามารถลงทะเบียนเข้าอบรมได้
นอกจากการอบรม 2 หลักสูตรที่กล่าวถึง
คณะวิทยากรตั้งเป้ าหมายที่จะมีหลักสูตรในระดับ
ที่สูงขึ้นอีก เป็ นระดับผู้ตรวจสอบหรือผู้รับรอง
ระบบก๊าซทางการแพทย์ (Inspector/Certifier)
แต่ยังไม่ได้สรุปชื่อหลักสูตร วัตถุประสงค์คือการ
สร้างบุคลากรในระดับที่จะไปตรวจรับรองคุณภาพ
72 TEMCA Magazine
ไ ฟ ฟ้ า แ ล ะ เ ค รื่ อ ง ก ล
ระบบก๊าซทางการแพทย์ที่ติด
ตั้งแล้วว่ามีความสมบูรณ์และ
ปลอดภัยในการใช้งานหรือไม่
เมื่ อประเทศไทยมีบุคลากรที่
ผ่านการอบรมระดับนี้จำนวน
มากพอสมควร อาจจะมีการ
เสนอเป็ นระเบียบหรือข้อบังคับ
เ พื่ อ เ ป็ น ม า ต ร ฐ า น ที่ ส ถ า น
พยาบาลจะต้องได้รับการรับรอง
ระบบก๊าซทางการแพทย์โดย
บุคลากรเหล่านี้ครับ
จ า ก ก า ร ที่ ผ ม ไ ด้ มี โ อ ก า ส
ประชุ มกั บคณะผู้นิพนธ์หนังสือระบบก๊ าซ
ทางการแพทย์อยู่เป็ นประจำ ทำให้ทราบว่า
ประเทศไทยเรายังขาดช่างเชื่อมเส้นท่อระบบ
ก๊าซทางการแพทย์อยู่พอสมควร ซึ่งการเชื่อม
เส้นท่อก๊าซทางการแพทย์นั้นไม่เหมือนกับเส้น
ท่ออื่ นๆ ที่ลำเลียงสารที่ไม่ได้สัมผัสกับมนุษย์
โดยตรง เช่น ท่อสารทำความเย็น ท่อก๊าซหุง
ต้ม เป็ นต้น แต่ท่อระบบก๊าซทางการแพทย์
จะเป็ นท่อที่ลำเลียงสารที่มาสัมผัสกับมนุษย์
โดยตรง เช่น ก๊าซออกซิเจน อากาศอัด หรือ
ยาสลบ เป็ นต้น ซึ่งถ้าภายในเส้นท่อมีสารปน
เปื้ อน เช่น เขม่าจากการเชื่อมตกค้างอยู่ สารปน
เปื้ อนเหล่านี้อาจหลุดเข้าไปสู่ร่างการหรือเครื่อง
มือแพทย์และทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่ วย ดัง
นั้นการติดตั้งและการเชื่อมเส้นท่อ จะต้องทำ
โดยช่างที่ผ่านการอบรมเรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่
ในปั จจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีการอบรมและ
ขึ้นทะเบียนช่างเชื่อมระบบเส้นท่อก๊าซทางการ
แพทย์โดยเฉพาะ คณะทำงานภายใต้คณะ
กรรมการความร่วมมือระบบก๊าซทางการแพทย์ฯ
จึงเริ่มประสานกับกรมพัฒนาฝี มือแรงงานใน
การจัดทำมาตรฐานช่างเชื่อมเส้นท่อระบบก๊าซ
ทางการแพทย์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างงานทำ
เอกสารมาตรฐาน เพื่อใช้เป็ นเอกสารประกอบ
ผู้เขียน
การอบรมและการทดสอบฝี มือ คาดว่าจะเริ่ม
ดำเนินการทดสอบฝี มือและขึ้นทะเบียนช่างได้
นายชัยชาญ อ๊งศรีวงศ์ • กรีรีมการีที่ปรี๊กษา สมาคมวิศวกรีรีม
ปรีับอากาศแห่งประเทศไทย
ประมาณต้นปี 2569 ครับ
การออกแบบระบบและการบำรุงรักษาระบบ
ก๊าซทางการแพทย์ให้สมบูรณ์ นอกจากจะเป็ น
ความปลอดภัยของผู้ป่ วยโดยตรงแล้ว ยังช่วยให้
อุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เสียหายด้วย วิสัญญี
แพทย์ท่านหนึ่งเล่าให้ฟั งว่า รถเครื่องดมยาใน
ห้องผ่าตัด ซึ่งเป็ นอุปกรณ์สำคัญมากๆ ในการ
monitor ระบบต่างๆ ของคนไข้ เช่น การให้ยา สลบ
ระดับอ๊อกซิเจน ชีพจร ความดันโลหิต ฯลฯ ใน
ระหว่างการผ่าตัด เคยเกิดความเสียหายบ่อยๆ ใน
หลายๆ โรงพยาบาล สาเหตุมาจากนํ้า/ความชื้น
จากท่ออากาศอัด (Medical compressed air)
หลุดเข้าไปในรถดมยา ซึ่งรถดมยานี้ราคาหลาย
ล้านบาท ต้องใช้เวลาซ่อมบำรุงนานและค่าซ่อม
บำรุงแพง (ลองหารูปดูจาก Google ครับ) ดังนั้น
การออกแบบและการบำรุงรักษาระบบก๊าซทาง
การแพทย์ต่างๆ เป็ นสิ่งที่สำคัญมากๆ เช่นกัน
ที่ผมเล่ามาให้ทราบกัน ก็เพื่อที่จะให้ท่าน
ผู้อ่านได้หันมามองเรื่องก๊าซทางการแพทย์
กันบ้าง เพราะเป็ นระบบที่ช่วยในการรักษา
พยาบาลและเป็ นระบบที่ช่วยชีวิตของเราและ
หากท่านมีโอกาสจะขอรบกวนให้ท่านช่วยเผย
แพร่ความสำคัญของระบบนี้ให้ทราบทั่วๆ กัน
ก็จะเป็ นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมครับ...
Issue 1 Volume 32 May-July 2025