Page 3 - PrakanNewsNo218เมย65n_Neat
P. 3
ฉบับประจ�ำเดือนเมษำยน พ.ศ.2565 หน้า 3
สถานีน�าร่องปากน�้าเจ้าพระยา (สมัยโบราณ)
ั
“ที่ดินกองทัพเรือ” พื้นที่เล็กๆ ประมาณ 15 ตารางวา ภายในเขต แหลมฟ้าผ่าถึง 5 กอง เพราะแม่นาเจ้าพระยาในช่วงน้นกว้างขวางมาก เรือ
�
้
โรงงานอตสาหกรรมฟอกหนัง ถนนสขมวทกิโลเมตรท 34 แม้แต่กองทพเรือ จากตางชาตจงสามารถแลนเขามาได้โดยงาย การถมศลากอนใหญดงกลาว
่
่
้
ั
่
ึ
ี
ิ
ิ
่
ุ
ุ
ุ
่
้
ิ
่
ั
้
์
็
�
�
็
้
่
ก็อาจไมทราบวาตัวเองเปนเจาของ เดิมเปนที่ตั้งหอสังเกตการณเรือเขา เป็นการจากัดแนวร่องนา เพ่อบังคับให้เรือขนาดใหญ่กินนาลึกในสมัยนั้น
้
ื
่
�
้
ออกร่องน�้าเจ้าพระยา ส่วนหนึ่งของระบบความมั่นคงที่ถูกสร้างบนปาก ต้องเดินเรือตามเส้นทางท่กาหนด สะดวกต่อไทยในการควบคุมให้เรือเดินอยู่
ี
�
ฟื้นคลองส�ำโรง แม่นาท้ง 2 ฝั่ง ประเทศไทยจาเป็นต้องมีหน่วยงานนาร่องเข้าสู่แม่นา ในแนวที่สามารถดูแลได้ทั่วถึง และยังอยู่ในแนวกระสุนป้อมปราการที่เราสร้าง
้
�
�
ั
�
�
้
ื
ี
ี
ี
เจ้าพระยา เพราะจังหวัดสมุทรปราการเป็นพ้นท่ปลายทางแม่นาท่นาพา เอาไว้ เป็นประโยชน์ในการป้องกันภัยหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินท่ต้องมีการ
�
้
�
คลองส�าโรง เป็นคลองที่เชื่อมระหว่างแม่น�้าเจ้าพระยากับ
้
�
ื
แม่น�้าบางปะกง มีความยาวประมาณ 56 กิโลเมตร รากเหง้า ฝุ่นโคลนธุลีดินไหลมากองรวมกัน จนกลายเป็นแนวสันดอนนาต้นบริเวณ โดย...สมชาย ชัยประดิษฐ์รักษ์ ปะทะกัน ร่องน�้าที่เกิดจากการถมหินนั้น เรียกว่า “ร่องน�้าโขลนทวาร”
กิจการน�ารองที่มีการบริหารอยางเป็นระบบเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4
ิ
้
�
่
ปากอ่าว โดยจะโผล่เป็นดินเลนแนวกว้างในช่วงนาลง แล้วจะมีนาปร่ม
่
้
�
แห่งประวัติศาสตร์ การเชื่อมเส้นทางระหว่างแม่น�้าทั้งสองนี้ก็เพื่อ ท่วมสันดอนในช่วงนาข้น ใครท่กระโดดลงไปจะเจอแต่โคลน ส่วนท่ลึก พบว่าช่วงเวลาเกือบ 59 ปีน มีการงอกของตล่งปากนาเจ้าพระยาถึง เม่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ผู้เช่ยวชาญชาว
�
้
ึ
ิ
ี
�
้
ี
ื
้
ี
ี
�
้
ใช้เป็นเส้นทางเดินทัพระหว่างแผ่นดินลุ่มนาเจ้าพระยา ไปยัง จะเป็นร่องน�้าโบราณมีความลึกที่สุดช่วงน�้าขึ้นเต็มที่เพียง 3 - 4 เมตร 4 กิโลเมตร หรือประมาณ 67 เมตรต่อปี และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ อังกฤษมาช่วยวางรากฐาน มีการก่อสร้างสถานีน�าร่องกลางทะเล (ไลท์เฮ้าส์)
ี
ี
ื
ึ
�
เมืองท่มีอานาจท่สุดเม่อหน่งพันกว่าปีท่ผ่านมา คือ เมืองนครธม เรือขนาดกลาง-ใหญ่เข้าออกไม่ได้หากไม่มีเจ้าหน้าท่ผู้ชานาญเส้นทาง ปากแม่นาเจ้าพระยา ร่องนาเจ้าพระยาและแนวสันดอนปากอ่าวไทยก็ขยาย และสถานบนบกประกอบด้วยหอส่องสงเกตการณ์เรอคอยแจ้งข่าว ตงอยู่
ี
้
�
ั
ั
ี
ี
้
�
ื
�
้
หากจะนับจากหลักฐานทุกชิ้นที่เรามีอยู่จะถือได้ว่าคลองส�าโรง คอยนาร่อง มิเช่นน้นเรืออาจแล่นติดดินโคลนของสันดอน (มีตัวอย่างเรือ ตามออกไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน ณ แหลมลาพูราย สมุทรปราการ สถานีร่องนาในสมัยน้นมีหน้าท่ในการ
�
ั
�
้
�
ี
ั
ี
ี
เป็นคลองขุดท่เก่าแก่ท่สุดในประเทศไทย เพราะในหนังสือ เกยตื้นสันดอนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ต้องใช้เวลาประมาณ 4 เดือนกว่าจะ ตรวจสอบการเข้าออกของเรือต่างชาติ พร้อมให้บริการน�าทางเข้าสู่ร่องน�้า
ั
ุ
ื
พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ได้กล่าวถึงเร่องราว หลดออก) นอกจากหอสังเกตการณ์ส่องเรือเข้าออกแล้ว เรายงสร้างสถาน ี ธรรมชาติ สถานีน�าร่อง (ไลท์เฮส์) มีลักษณะเป็นอาคารลอยน�้ามีความสูง
�
การ “ขุดลอก” คลองสาโรงมาแต่สมัยสมเด็จพระรามาธิบด ี
ื
ี
่
ท 2 (ปี พ.ศ. 2041) เม่อมีการบันทึกไว้ว่าเป็นการขุดลอกก ็
หมายความว่าคลองสาโรงจะต้องมีอายุยาวนานกว่าน้นมาก
�
ั
ถึงได้มีการต้นเขินจนต้องบูรณะข้นใหม่ สันนิษฐานได้ว่า
ึ
ื
�
�
คลองสาโรงถูกขุดมาแต่สมัยเขมรเรืองอานาจ ระหว่าง พ.ศ. 978
ถึง 1700 หลักฐานท่พบคือ คาด้งเดิมซ่งเป็นภาษาเขมร เช่น
ั
ึ
ี
�
ทับนาง หนามแดง บางโฉลง เป็นต้น คลองส�าโรงอาศัยแรงดัน
นาจากสองปากคลองระหว่างแม่นาเจ้าพระยากับแม่นา
้
�
�
�
้
้
บางปะกง ท�าให้ตรงกลางล�าคลอง คือ ระหว่างคลองทับนางถึง เรือล�านี้ติดคาอยู่บนสันดอนกว่า 4 เดือน กว่าจะหลุดออกได้
อ�าเภอบางพลี จึงมักจะเกิดการตื้นเขินเนื่องจากแรงดันน�้าอ่อนลง สถานีน�าร่องโบราณกลางทะเล บนสุดคือที่ตั้งตะเกียงขนาดยักษ์
ึ
�
ั
ในการขุดซ่อมคลองส�าโรงเมื่อปี พ.ศ. 2041 มีการขุดพบเทวรูป ระบบนาร่องของไทยเกิดข้นคร้งแรกในปี พ.ศ. 2218 สมัยสมเด็จ (รูปซ้าย) หอสังเกตการณ์เรือ (รูปขวา)
ื
ี
โบราณ 2 องค์จมโคลนอยู่ และแม้ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ภาพถ่ายเม่อปี พ.ศ.2548 “ท่ดินกองทัพเรือ” ในเขตโรงงานอุตสาหกรรม พระนารายณ์มหาราช โดยกับตัน George White อดีตนายทหารเรืออังกฤษ
�
ี
ก็มีปรากฎการณ์องค์หลวงพ่อโตก่อนท่จะมีพิธีอัญเชิญข้น ร่วมกับกลุ่มชาวต่างชาติเข้ามายึดอาชีพการนาร่อง โดยรับรายได้เป็นค่าจ้าง 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นที่พักส�าหรับเจ้าหน้าที่ ชั้น 2 เป็นที่เก็บน�้ามันและอุปกรณ์
ึ
ี
่
ั
�
ั
�
ื
ี
้
�
ประดิษฐาน ณ อุโบสถ วัดบางพลีใหญ่ใน ดั่งที่เห็นในปัจจุบัน น�าร่อง (ไลท์เฮ้าส์) กลางทะเล มีเจ้าหน้าที่พักอาศัย คอยขึ้นไปบนเรือ เม่อสามารถนาทางเรือสินค้าจากแนวสันดอนเจ้าพระยา เข้าสู่ลาแม่นาใหญ่ จุดไฟ ช้นท 3 เป็นหอติดต้งตะเกียงขนาดใหญ่ท่ล้อมด้วยกระจกหนา
้
ี
�
ิ
�
�
�
�
ื
ลอยมาแน่นิ่งอยู่กลางคลองส�าโรงที่อ�าเภอบางพลี สนค้าทาการนาร่องด้วยตนเอง เรยกเรอเข้าและออกแม่นาเจ้าพระยา ได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม กิจการนาร่องดังกล่าวจะต้องดาเนินการ สามารถขยายก�าลังแสงไฟออกไปได้ถึงสองแสนเท่า เพื่อส่งสัญญาณระยะ
ั
ั
ั
ี
ี
เหล่าน้ว่า “เรือลูกค้า” ท้งน้เพราะสถานีนาร่องเก็บรายได้เป็นค่าจ้างจาก ภายใต้ข้อบังคับทางความม่นคงของประเทศสยาม ท้งน้เพราะทาง ไกลให้เรือที่กาลังเข้าออกต้องเข้ามารายงานตว เจ้าหน้าท่ในสถานีจะเตรียม
ี
ั
ี
�
�
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ การน�าทาง สมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งหอส่องสังเกตการณ์เรือและสถานีน�าร่อง กรงศรอยธยากมีการสร้างแนวระวงข้าศกทอาจเข้ามาทางทะเล สร้างแนว เรือเล็กจากสถานีร่องนา แล่นไปส่งข่าวไปท่ศาลาว่าการเมืองสมุทรปราการ
�
ุ
ี
็
ุ
ี
่
ึ
้
ี
ั
�
ได้ทาตามนโยบายท่ให้ไว้ต้งแต่วันเข้ารับตาแหน่ง ผวจ.ปากนา เคยอยู่ในความรบผดชอบของกองทัพเรือ จนเมอหลงสงครามโลก กีดขวางตามลาแม่นาป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้าสู่พระนครโดยง่าย ในขณะ แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ จากน้นจึงต้องส่งสารเพ่อขออนุญาตไป
ี
�
ั
�
้
ื
้
ั
�
�
ื
ั
ั
่
ิ
ิ
ว่าจะฟื้นคลองประวัติศาสตร์แห่งน้และก็เร่มทาจริง โดยเม่อ ครั้งที่ 2 มีการสร้างสถานี เดียวกันก็ยังเป็นแนวกีดขวางผู้ก่อการไม่สงบในพระนคร มิให้เดินเรือ เจ้าหน้าท่กรมท่าในกรุงเทพมหานคร ซ่งอาจใช้เวลาหลายวัน ในบางคร้ง ั
ื
ี
�
ึ
ี
วันที่ 5 เมษายน 2565 เวลา 10.00 น. บริเวณศาลาแก้วมณี นาร่องกลางทะเลแห่งใหม่ หลบออกนอกพระราชอาณาจักรได้สะดวกเช่นกัน การเข้าออกของชาวต่าง เรือจากต่างประเทศอาจต้องลอยอย่กลางทะเลนอกสนดอนหลายอาทตย์
�
ิ
ู
ั
ี
ภายในวัดหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพล จ.สมุทรปราการ ใช้เทคโนโลยีทนสมัยม ชาตในสมยกรงศรีอยธยาจงต้องมการกาหนดยทธศาสตร์เอาไว้อย่าง กว่าจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่แม่นาเจ้าพระยาได้ จนเกิดการร้องเรียนจาก
ุ
�
ั
ี
ุ
ิ
ั
ึ
ุ
ี
้
�
ั
ื
่
ี
�
นายวันชัย ผวจ.ได้เป็นประธานในพิธีทาบันทึก (MOU) ว่าด้วย ชอว่า “สกณา” ม ค่อนข้างระมัดระวัง ต้งแต่การเดินทางจากแนวสันดอนเจ้าพระยาก่อนเข้าสู่ ชาวต่างชาติว่าเป็นระบบการสื่อสารที่ล่าช้าไม่ทันการ
ุ
่
ี
�
�
้
ความร่วมมือโครงการ “คลองสาโรง สายนาแห่งความรักและ สัญลักษณ์บอกแนวตลอด “กรุงศรีอยุธยา” ปี พ.ศ. 2223 สมเด็จพระนารายณ์มหาราชยังได้โปรดเกล้าฯ ในสมัยรัชกาลท 5 จึงมีการพัฒนาระบบการแจ้งข่าวให้ทันสมัย
ั
�
้
้
�
ความสามัคคี” เป็นต้นแบบตามนโยบายจังหวัดสมุทรปราการ ร่องนา รัฐบาลได้โอน ให้ต้งแท่นถาวรสองฝั่งแม่นา แล้วผูกโซ่ขนาดใหญ่ไว้บริเวณป้อมบางกอก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีการเดินสาย
�
�
้
�
้
ี
�
ั
ู
้
�
�
ี
้
“รักษ์นา รักษ์คลอง รักสมุทรปราการ” ระหว่างจังหวัด เฉพาะสถานร่องนาไปอย่ ขึงก้นลานาเจ้าพระยา ตามการถวายคาแนะนาของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ เส้นลวดจากสถานีร่องนา (ไลท์เฮ้าส์) ท่อยู่กลางทะเล ผ่านศาลาว่าการ
�
สมุทรปราการ โดยสานักงานโยธาและผังเมือง ชลประทาน ในสังกัดกรมเจ้าท่า ส่วน เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ก่อกบฏโดยแขกมากาซ่า (กบฏมักกะสัน) สายโซ่นี้ เมืองสมุทรปราการ และไปสิ้นสุดที่พระราชวังสราญรมย์ใต้ (กระทรวงต่าง
�
�
ั
ื
ั
ั
ี
ื
ิ
่
�
่
ี
จงหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถนทคลองสาโรงไหลผ่าน หอสังเกตการณ์ท่เคยเป็น ก็มีส่วนช่วยในการกักก้นกองกาลังกบฏแขกมากาซ่าไม่ให้หนีออกนอก ประเทศในสมัยน้น) ติดต้งเครื่องโทรเลขและโทรศัพท์ เพ่อส่อสารจากสถาน ี
ั
�
ี
ั
เขตของกองทัพเรือท่ม ประเทศได้ จนถูกกองทหารไทยนาโดยนายทหารชาวฝร่งเศสฆ่าตาย ร่องน�้ากลางทะเลสู่กรุงเทพมหานครได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที สมัยนั้น
ี
ี
ั
ท้งในเขต อ.บางพล อ.บางบ่อ อ.บางเสาธง และ อ.พระประแดง อยู่ 4 แห่ง ไม่มีความ ทั้งหมด สถานีร่องน�้าจึงถือเป็นที่ตั้งอาคารลอยน�้าที่ใหญ่ที่สุด และมีอุปกรณ์สื่อสาร
รวม 17 ท้องถ่น ช่วยกันอนุรักษ์ฟื้นฟูคลองสาโรงให้เป็น จาเป็นต้องใช จึงถูกท้งร้าง สายโซ่ท่ขึงก้นแม่นาในสมัยกรุงศรีอยุธยาน่าจะถูกพม่าทาลายคราว ท่ทันสมัยที่สุด เป็นท่ต้งของตะเกียงดวงแรกของประเทศไทย เคร่องโทรเลข
ิ
�
ี
�
ี
ื
ั
�
ิ
้
ี
้
ั
�
ั
�
ุ
่
้
ั
คลองสวยนาใส ซงสอดคล้องกบนโยบายรัฐบาลท่ม่งหวงจะ ในเวลาต่อมา เสียกรุงฯ ครั้งที่สอง เพราะในสมัยรัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. 2358 เมื่อครั้งมี เครื่องแรก และเครื่องโทรศัพท์เครื่องแรกของประเทศไทย ส่วนเส้นทางที่
ึ
ี
�
�
้
�
ปรับปรุงแม่นาลาคลองให้เป็นแหล่งนาสาธารณะใช้งานได้ ปากนาเจ้าพระยาเป็นพนท่แนวดนเลนสะสมจนเกดแผ่นดินทงอก การเร่งพัฒนาแนวป้องกันศัตรูเข้าสู่กรุงเทพมหานครอย่างต่อเน่อง พระบาท เดินสายเส้นลวดจากศาลาว่าการเมืองสมุทรปราการไปแหลมลาพูรายก่อน
้
ี
ิ
่
�
้
�
ื
ี
้
ื
ิ
โดยปราศจากส่งปฏิกูล ผักตบชวาและธัญพืชต่างๆ ให้คลอง ขนเรอยๆ ทาให้เกดการเปลยนแปลงร่องนาและจดทเป็นบรเวณปาก สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้โปรดเกล้าฯให้ท�า “ลูกทุ่น เดินสายใต้นาไปสถานีร่องนา ชาวบ้านเรียกกันจนปัจจุบันว่า “ถนนสายลวด”
ิ
่
่
ี
ื
่
ี
้
�
ิ
้
�
ุ
ึ
้
�
�
ิ
้
�
้
้
�
้
ั
่
�
ี
�
ิ
ี
�
�
ื
สาโรง คลองขุดประวัติศาสตร์ได้กลับมามีชีวิตเป็นเส้นทาง แม่นาอยู่เสมอ เป็นอุปสรรค์ให้เกิดความสับสนไม่น้อยในการศึกษาพ้นท สายโซ่” สาหรับขึงก้นแม่นาเจ้าพระยาอีกคร้ง โดยนาท่อนซุงทาเป็นต้น กิจการนาร่องแบบโบราณท่อาศัยร่องนาธรรมชาต ได้ดาเนินการจนถึงสมัย
�
�
ั
�
�
่
ี
ี
ั
ี
ี
่
ี
�
สัญจรทางนา เป็นแหล่งนาทางเกษตรกรรม การท่องเทยว ปากแม่น�้าเจ้าพระยา เพราะตามบันทึกประวัติศาสตร์หลายฉบับในแต่ละยุค โกลนร้อยเก่ยวเข้ากระหนาบเป็นตอนๆ เข้าไปปักหลักระหว่างต้นโกลนทุกช่อง หลังสงครามโลกคร้งท 2 ระบบนาร่องท่เคยเป็นระบบท่ทันสมัยในสมัย
้
้
�
ั
ี
่
ี
ิ
ื
ิ
ี
ื
ี
ี
ั
ท่มีท้งวัดโบราณสถานและวิถีชีวิตชาวบ้านท่ยังมีให้เห็นเป็น ปรากฎเป็นพ้นท่ท่ไม่ตรงกัน ตัวอย่างเร่องของตล่งงอกสามารถเปรียบเทียบ ร้อยโซ่ผูกทุ่นไว้อย่างม่นคงแข็งแรงไว้ที่บริเวณหน้าเมืองนครเขื่อนขันธุ์ รัชกาลท 5 กลับกลายเป็นส่งที่ล้าสมัยในเวลาต่อมา รัฐบาลจึงเตรียม
�
้
�
ื
ี
ั
รากเหง้า 2 ฝั่งคลองส�าโรงมาจนปัจจุบัน ได้จากบันทึกในประวัติศาสตร์ 2 ฉบับ ระหว่างฉบับท่บันทึกไว้ในปี (พระประแดงในปัจจุบัน) ต่อมาเม่อปี พ.ศ. 2388 พระบาทสมเด็จ โครงการก่อสร้างและพัฒนาระบบร่องนาเจ้าพระยาคร้งใหญ่ ย้อนตานาน
�
พ.ศ. 2340 (รัชกาลที่ 1) กับฉบับที่บันทึกไว้ในปี พ.ศ. 2399 (รัชกาลที่ 4) พระน่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้นาศิลาก้อนใหญ่ๆ มาถมปิดปากอ่าวท่ตาบล สมุทรปราการจะขออธิบายในปราการนิวส์ฉบับหน้าครับ
�
ั
ี
ี
ท�ำไม “พนักงำนอัยกำร” จึงไม่ฟ้องคดี “กระติก” ท้งท่ ผู้ต้องหำให้กำรรับสำรภำพ?
ั
ั
�
�
�
�
มีอานาจพิจารณาพิพากษา คดีและมีอานาจทาการไต่สวนหรือมีคาส่ง รับบาดเจ็บ อาจถึงแก่ความตายได้หรือไม่ และ (บังเอิญ) ต่อมาผู้ได้ “คดีเอกภาพ” ตามระเบียบสานักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดาเนิน
�
�
�
ื
�
ี
ใดๆ ซ่งผู้พิพากษาคนเดียวมีอานาจตามมาตรา 24 และมาตรา 25 รับบาดเจ็บได้รับผลกระทบต่อระบบสมองและการสั่งการ ท�าให้ระบบ คดอาญาของพนกงานอยการ พ.ศ. 2563 รวมทังเพอให้การอานวย
ั
ั
่
ึ
้
วรรคหนึ่ง สมองและระบบการควบคุมอวัยวะภายในล้มเหลว และถึงแก่ความตาย ความยุติธรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคดีน้เป็นคดีท่มีข้อเท็จ
ี
ี
ี
ั
�
ี
่
จึงอาจกล่าวได้ว่า “คดีศาลแขวง” คือ คดีท “ผู้พิพากษาคนเดียว” (แม้ว่า บาดแผลภายนอกอาจไม่เห็นประจักษ์ก็ตาม) จริงท่ยุ่งยากและชับซ้อน ตามหนังสือเวียนส่งการของสานักงานอัยการ
�
ิ
ื
่
่
ี
�
ี
ิ
�
ั
ี
ี
สามารถพจารณาพพากษา คดและมอานาจทาการไตสวนหรอมคาสง แต่การท “ผู้ได้รับบาดเจ็บ” ต่อมา ถึงแก่ความตาย อันมีผลทาให้ สูงสุดที่ อส (สฝปผ.) 0018/ว 169 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2544 ได้
�
่
ตามปกติ เมื่อ “พนักงานสอบสวน” ได้น�าตัว“ ผู้ต้องหา” ในคดี ใดๆ ตามมาตรา 24 และมาตรา 25 วรรคหนึ่ง ได้ การกระทาของ ผู้ต้องหา เป็นความผิดฐาน “ทาร้ายผู้อ่นจนถึงแก่ความ ก�าหนดแนวทางปฏิบัติว่า หากต้องด้วยกรณีดังกล่าว
ื
�
�
ี
อาญาท่อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวง และถ้า “ผู้ และหากเป็น “คดีอาญา” จะต้องเป็น “คดีอาญา” ที่มีอัตราโทษ ตาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ซึ่งมีโทษ จ�าคุกตั้งแต่ ด้วยเหตุและผลดังกล่าว แม้ผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพ แต่
�
ต้องหา” ให้การรับสารภาพตลอดข้อหา “ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้ง อย่างสูงจ�าคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจ�าทั้ง 3 ปี ถึง 15 ปี และถ้าการกระท�านั้น มีเหตุฉกรรจ์ด้วย เช่น ผู้บาดเจ็บ พนักงานอัยการจะไม่ย่นฟ้องตามบันทึกคาให้การรับสารภาพของผู้
ื
�
�
ศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา ปรับ เป็น บุพการ เป็นเจ้าพนักงาน หรือ มีลักษณะไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ต้องหา โดยให้คืนตัวผู้ต้องหาพร้อมบันทึกคาให้การรับสารภาพให้
ี
�
�
20 กาหนดให้ “พนักงานสอบสวน” นาตัว “ผู้ต้องหา” มายัง “พนักงาน เม่อคด “ แจ้งข้อความอันเป็น เท็จ” ตาม ประมวลกฎหมายอาญา เป็นต้น” ย่อมมีโทษหนักขึ้น คือ จ�าคุก ตั้งแต่ 3 ปี ถึง 20 ปี พนักงานสอบสวนเพ่อทาการสอบสวนจนเสร็จส้นกระบวนการ
ื
�
ื
ิ
ี
อัยการ” หรือ สั่งให้ “ผู้ต้องหา” ไปพบ “พนักงานอัยการ” (ในกรณี มาตรา 172 มีอัตราโทษ จ�าคุกไม่เกิน 2 ปีหรือ ปรับไม่เกิน 40,000 แต่การรีบฟ้องผู้ต้องหาไปในความผิดฐาน “ทาร้ายร่างกาย” ตาม สอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเสียก่อน
�
�
ทผู้ต้องหาไม่ได้ถูกควบคุมตว) เพ่อฟ้องคดศาล “ท้งน โดยไม่ต้อง บาท หรือ ท้งจาท้งปรับ จึงอยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาล มาตรา 295 ซึ่งมีโทษเพียง จ�าคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 และเม่อทาการสอบสวนเสร็จส้นแล้ว ให้พนักงานสอบสวนส่งสานวน
ี
�
ั
ื
ั
้
�
ี
ื
ั
ี
�
่
ิ
ั
ท�าการสอบสวน” และ “ให้ฟ้องด้วยวาจา” แขวง และผู้พิพากษาคนเดียว สามารถพิจารณาพิพากษาได้เลย บาท ท้งท หากผู้บาดเจ็บต่อมาถึงแก่ความตาย ย่อมเป็นความผิด ตาม ให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อมีค�าสั่งต่อไป
่
ั
ี
ื
ื
เม่อฟ้องคดีด้วยวาจาแล้ว ให้ศาลถาม ผู้ต้องหา ว่า จะให้การ ดังนั้น คดีศาลแขวง จึง “รวดเร็ว” การด�าเนินคดีที่ “รวดเร็ว” มาตรา 290 ซึ่งมีอัตราโทษ “ จ�าคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี หรือ จ�าคุก การเร่งรีบให้ฟ้องคดีด้วยวาจาต่อศาลแขวง เพ่อให้คดีเสร็จ
อย่างไร และ ถ้า ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ให้ศาลบันทึกค�าฟ้อง ต่อเนื่อง และ เป็นธรรม ย่อมเป็นผลดีต่อกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ 3 ปี ถึง 20 ปี (แล้วแต่กรณี) เด็ดขาดไปก่อน จึงอาจไม่เป็นผลดีและอาจไม่ยุติธรรมต่อผู้ตาย เพราะ
�
ื
�
�
คารับสารภาพ และทาคาพิพากษาในบันทึกฉบับเดียวกัน แล้วให้ แต่ การ “รวดเร็ว” ก็มิได้หมายความว่า จะเป็นผลดีหรือเป็น แต่ พนักงานอัยการ ไม่สามารถไปฟ้องใหม่ (ฟ้องในความผิดที่ เม่อความจริงย่อมฟังไปตามทางท่ฟ้องและคดีท่เสร็จเด็ดขาดไปแล้ว
ี
ี
โจทก์ จ�าเลย ลงชื่อไว้ในบันทึกนั้น ธรรมต่อคู่ความทุกฝ่าย เพราะอาจมีคู่ความฝ่ายหน่งได้รับผลประโยชน์ มีโทษหนักกว่า หรือ ในฐานความผิดที่ปรากฏขึ้นในภายหลังได้ ทั้งที่ และอาจท�าให้มีผลกระทบต่อคดีหลักได้
ึ
ั
แต่ถ้าผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ ให้ศาลส่งให้พนักงานอัยการ รับ และมีคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ ความจริงและพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นเช่นน้น) ท้งน เน่องจาก
้
ื
ี
ั
ั
ื
�
�
ตัวผู้ต้องหาคืน เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนด�าเนินการต่อไป ยกตัวอย่างเช่น มีการท�าร้ายร่างกายกัน พนักงานสอบสวน แจ้ง “สิทธินาคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ” เม่อมีคาพิพากษาเสร็จเด็ดขาด
ื
ื
เม่อคดีของ “กระติก” ปรากฏจากข่าวสารและส่อมวลชนว่า ข้อหาผู้ต้องหาว่า “ท�าร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ ในความผิดซึ่งได้ฟ้อง ตามป.วิ.อ. มาตรา 39 (4) และ จะน�ากลับมา
พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา “กระติก” ในความผิดฐาน “แจ้ง กาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ซึ่งมีโทษ จ�าคุกไม่ ฟ้องใหม่ก็ไม่ได้ เป็น “ฟ้องซ�้า” ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148 ประกอบ
ข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน” เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งโทษจ�าคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ป.วิ.อ. มาตรา 15
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 ผู้ใด แจ้งข้อความอันเป็น ปรับไม่เกิน 60,000 บาท จึงอยู่ในอ�านาจ พิจารณาพิพากษาของศาล ดังนั้น การเร่งรีบให้ “พนักงานอัยการ” ฟ้องคดี เพื่อให้ คดีเสร็จ
ี
เท็จ เก่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซ่งอาจทาให้ผู้อ่น แขวง และอย่ในอ�านาจพจารณาของผ้พพากษาคนเดยว ดงนน เด็ดขาด ท้งท่คดียังไม่ส้นกระแสความ จึงอาจไม่เป็นผลดีแก่ผู้เสียหาย
้
ิ
ั
ี
ั
ื
ิ
ี
ิ
ั
ึ
ู
�
ู
หรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษ จ�าคุกไม่เกิน 2 ปี เดือน หรือ ผู้ต้องหา จึง “รีบรับสารภาพ” เพ่อให้พนักงานสอบสวน ส่งตัวผู้ต้องหา แต่ก็อาจเป็นผลดีแก่ผู้ต้องหา ก็อาจเป็นได้
ื
ี
ื
ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจ�าทั้งปรับ ให้พนักงานอัยการ เพ่อฟ้องคดีด้วยวาจา ต่อศาลแขวง เพ่อให้ศาล มาถึง คด “กระติก” แม้คดีน้พนักงานสอบสวนมีอานาจนาผู้
�
�
ื
ี
ี
ื
ื
ั
ึ
ทั้งนี้ ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 25 (5) ก�าหนดให้ ตัดสินคดีทันท เพ่อคดีจะได้จบและยุติโดยเร็ว ซ่งหาก ผู้ต้องหาคนน้น ต้องหามายังพนักงานอัยการเพ่อฟ้องศาลโดยมิต้องสอบสวนและให้
คดีอาญาท่มีอัตราโทษอย่างสูงจาคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน ไม่เคยรับโทษจาคุกมาก่อน หรือเคยรับโทษจาคุกมาก่อน แต่เป็นโทษ ฟ้องด้วยวาจา ดังที่กล่าวแล้วก็ตาม
�
�
ี
�
ื
ี
60,000 บาท หรือท้งจาท้งปรับ ให้อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของ สาหรับความผดทได้กระทาโดยประมาท หรอลหโทษ หรือเป็นโทษ แต่เน่องจากคดีน้เป็น คดีสาคัญท่สังคม ส่อมวลชน ตลอดจน
ั
�
�
�
ิ
ื
ี
ุ
่
ื
ั
�
�
ี
ุ
็
�
ิ
่
์
้
ี
ี
ื
ิ
ู
้
ู
ี
ื
ผพพากษาคนเดยวเปนองคคณะ แตจะลงโทษ จาคกเกน 6 เดอน หรอ จ�าคุกไม่เกิน 6 เดือน และ ไม่อยู่ในเงื่อนไขการเพิ่มโทษหรือนับโทษ ประชาชนให้ความสนใจ เพราะคดนเป็นการกล่าวหา “ผ้ต้องหา”
ปรับเกิน 10,000 บาท เกินกว่าอัตราดังกล่าวไม่ได้ ต่อ โอกาสท่ศาลจะพิพากษาลงโทษแต่ให้ “ รอการลงโทษ” หรือ เนื่องจาก “การให้การของผู้ต้องหา” ซี่งให้การกับพนักงานสอบสวน
ี
หมายความว่า คดีที่อัตราโทษ จ�าคุกไม่เกิน 3 ปี หรือโทษปรับ “รอการก�าหนดโทษ” ก็มี (ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของ นางสาวภัทรธิดา หรือแตงโม พัชรวีระพงศ์ นายวรเทพ สกุลพิชัยรัตน์
ึ
�
ี
ไม่เกิน 60,000 บาทผู้พิพากษาคนเดียวสามารถเป็นองค์คณะ 56, 58) ซ่งปรากฎข้อเท็จจริงท่สังคมและประชาชนรับทราบจากการนาเสนอ - อัยการศาลสูงจังหวัดสมุทรปราการ
พิจารณาพิพากษาตัดสินคดีไปได้เลย แต่หากคดน้น พนกงานสอบสวน ไม่ได้สอบสวนแพทย์ให้ได้ ข่าวของส่อมวลชนว่า มผู้เก่ยวข้องเกยวกบการเสยชีวตคนอนและ - รองประธานคณะอนกรรมการศกษาการปฏรูปกระบวนการยตธรรม
ี
ั
ี
ุ
ี
ื
ิ
่
ี
ิ
ุ
ิ
ึ
ื
่
ั
ั
ี
่
้
�
ิ
ี
ี
ื
ั
ศาลแขวง มีอ�านาจพิจารณาพิพากษาคดีอย่างไร ? ความชัดแจ้งว่า บาดแผลท่ผ้เสยหายถูกทาร้ายมความรุนแรงมากน้อย ข้อหาอ่นอีกอยู่ในเหตุการณ์ ในช้นน พนักงานอัยการ สานักงานอัยการ และสทธมนษยชน (คนท 4) ในคณะกรรมาธการการกฎหมาย
ิ
ุ
ิ
ี
�
ี
ู
ี
ึ
ื
ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 บัญญัติให้ ศาลแขวง เพียงใด และ บาดแผลดังกล่าวมีผล อาจท�าให้ ผู้เสียหาย หรือ ผู้ได้ คดีศาลแขวงนนทบุรีจึงยังไม่ทราบข้อเท็จจริงคดีอ่นๆ ซ่งอาจเป็น การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร