Page 113 - รวมเล่มข้อบังคับ ระเบียบ 2566

107
14

ข้อ 58 การขาดจากสมาชิกภาพของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบย่อมขาดจากสมาชิกภาพเพราะเหตุใด ๆ
ดังต่อไปนี้
(1) ตาย
(2) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
(3) ต้องคำพิพากษาให้ล้มละลาย
ุ
(4) ลาออกจากสหกรณ์ และได้รับอนญาตแล้ว
(5) เมื่อสมาชิกของสหกรณ์ซึ่งเป็นผู้มีความเกี่ยวข้องกับสมาชิกสมทบต้องขาดจากสมาชิกภาพตามข้อ 42(2)
(6) ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับข้อ 51
(7) พ้นจากราชการ หรืองานประจำตามข้อ 51 (3) 3.2 โดยมีความผิด
(8) ถูกให้ออกจากสหกรณ์
ข้อ 59 การลาออกจากสหกรณของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบอาจขอลาออกจากสหกรณ์ได้โดยแสดงความ
์
จำนงเป็นหนังสือต่อคณะกรรมการดำเนินการ และเมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้สอบสวนพิจารณาเห็นว่าเป็นการชอบด้วย
ข้อบังคับและอนุญาตแล้วจึงให้ถือว่าออกจากสหกรณ์ได้
ข้อ 60 การให้ออกจากสมาชิก สมาชิกสมทบอาจถกให้ออกจากสหกรณ์เพราะเหตุใดๆ ดังต่อไปนี้
ู
(1) ไม่ชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ื่
(2) ไม่ลงลายมือชอในทะเบียนสมาชิกสมทบ
(3) ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ มติและคำสั่งของสหกรณ์
(4) แสดงตนเป็นปฏิปักษ์หรือทำให้เสื่อมเสียต่อสหกรณ์หรือขบวนการสหกรณ์ไม่ว่าโดยประการใดๆ
(5) ขาดส่งเงินค่าหุ้นรายปีถึงสามงวดติดต่อกัน หรือขาดส่งรวมถึงหกงวด ทั้งนี้โดยมิได้รับอนุญาตจาก
คณะกรรมการดำเนินการ
(6) ค้างส่งเงินงวดชำระหนี้ ไม่ว่าต้นเงิน หรือดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลาถึงสองงวด หรือผิดนัดการส่ง
เงินงวดชำระหนี้ดังว่านั้นถึงสามคราวสำหรับเงินกู้รายหนึ่ง ๆ
เมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้สอบสวนพิจารณาปรากฏว่า สมาชิกสมทบมีเหตุใดๆ ดังกล่าวข้างต้นและได้ลงมติให้
็
สมาชิกสมทบออกคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามแห่งจำนวนกรรมการดำเนินการที่มีอยู่ทั้งหมดในขณะนั้นแล้ว กเป็นอัน
ถือว่าสมาชิกสมทบนั้นถูกให้ออกจากสหกรณ์
ุ
สมาชกสมทบที่ถูกให้ออกจากสหกรณ์มีสิทธิอุทธรณ์ต่อที่ประชมใหญ่ โดยยื่นคำอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ
ิ
ดำเนินการ ผู้ตรวจสอบกิจการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบมติของคณะกรรมการดำเนินการ คำวินิจฉัยของที่ประชม
ุ
ใหญ่ให้เป็นที่สุด การลงมติให้ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ตัดสิน
*นายทะเบียนสหกรณ์แก้ไขข้อความ “คณะกรรมการดำเนินการ” เป็น “ผู้ตรวจสอบกิจการ”
ข้อ 61 การเปลี่ยนแปลงชื่อ สัญชาติ และที่อยู่ของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบคนใดมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่อง
ชื่อ สัญชาติและที่อยู่ ต้องแจ้งให้สหกรณ์ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
ู้
ข้อ 62 การตั้งผรับโอนประโยชน์ของสมาชิกสมทบ สมาชิกสมทบอาจทำหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคนเป็น
ผู้รับโอนประโยชน์ในเงินค่าหุ้น เงินฝาก หรือเงินอื่นใดจากสหกรณ์เมื่อตนถึงแก่ความตายโดยมอบไว้แก่สหกรณ์เป็นหลักฐาน
หนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์ดังว่านี้ให้ทำตามแบบที่สหกรณ์กำหนด
์
ถ้าสมาชิกสมทบประสงค์จะเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งผู้รับโอนประโยชนที่ได้ทำไว้แล้ว ก็ต้องทำเป็นหนังสือ
ตามแบบในวรรคก่อนมอบให้สหกรณ์ถือไว้
เมื่อสมาชิกสมทบตาย ให้สหกรณ์แจ้งให้ผู้รับโอนประโยชน์ตามความในวรรคก่อนทราบและสหกรณ์จะจ่ายเงินค่า
์
ิ
หุ้น เงินรับฝาก เงินปันผล เงนเฉลี่ยคืน และเงินผลประโยชนหรือเงินอื่นใดบรรดาที่สมาชิกสมทบผู้ตายมีอยู่ในสหกรณ์ให้แก่
ผู้รับโอนประโยชน์ที่ตั้งไว้ หรือถ้ามิได้ตั้งไว้ ก็ให้คืนแก่บุคคลที่ได้นำหลักฐานมาแสดงให้เป็นที่พอใจของคณะกรรมการ
ดำเนินการว่าเป็นทายาทของผู้มีสิทธิได้รับเงินจำนวนดังกล่าวนั้น ทั้งนี้ตามที่กำหนดในข้อ63 และข้อ64
ให้ผู้รับโอนประโยชน์ตามความในวรรคแรก ยื่นคำร้องขอรับเงินผลประโยชน์ต่อสหกรณ์ภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่
วันที่สมาชิกสมทบตายหรือได้รับแจ้งจากสหกรณ์ โดยให้แนบสำเนามรณบัตรที่ทางราชการออกให้แสดงว่าสมาชิกสมทบนั้น ๆ
ได้ถึงแก่ความตายไปประกอบการพิจารณาด้วย เมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้พิจารณาและอนุมัติแล้ว สหกรณ์จะจ่ายเงิน
์
ผลประโยชน์ดังกล่าวดังกล่าวภายในสี่สิบห้าวัน ในกรณีผู้มีสิทธิรับเงินผลประโยชน์ไม่ยื่นคำขอรับเงินผลประโยชน หรือผู้ที่ชื่อ
เป็นผู้รับโอนประโยชน์ไม่ยื่นคำขอรับเงินผลประโยชน์ หรือผู้ที่มีชื่อเป็นผู้รับโอนประโยชน์ที่สมาชกสมทบได้จัดทำให้สหกรณ์
ิ